ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค- วิสุทธิธรรรมเปล่า คาถา ตอน ๒ (ตอนจบ) - หน้าที่ 51
ทั้งปวงนี้ จัดเป็นสัมมะนะหนึ่ง ด้วยอำนาจว่า "อนุจิ๋ย ญญูช-
ชื่อว่าไม่เที่ยงเพราะอรรถคือสิ้นไป" นั่น แต่ (ว่า) โดยแยกออกไป
ก็เป็นสัมมะนะ ๑๑ อย่าง (มีอดีดสัมมะนะ - พิจารณารูปที่เป็นอดีต
เป็นต้น)
อันนี้ รูปทั้งปวงนั้นแหละชื่อว่าเป็นทุกข์ เพราะอรรถคือเป็นภัย
คำว่า "เพราะอรรถคือเป็นภัย" หมายความว่า เพราะเป็นสิ่งน่ากลัว
ด้วยว่าสิ่งใดไม่เที่ยง منهنั้นเอาเป็นสัมมะนะ ให้ความกลัวเกิด
ขึ้นแก่เทวาทั้งหลาย ในเพราะ (ได้ฟัง) สีโหนุปสูตรนั้นนั่น แม้
สัมมะนะดังกล่าวมานี้คือเป็นสัมมะนะหนึ่ง ด้วยอำนาจว่า "ทุกข์
ภยญาน-ชื่อว่าเป็นทุกข์เพราะอรรถคือเป็นภัย" นั่น แต่ (ว่า) โดย
แยกออกไปก็เป็นสัมมะนะ ๑๑ อย่าง (เหมือนกัน)
อันนี้ รูปทั้งปวงนั้นชื่อว่าเป็นทุกข์ใน คืือว่าเป็นอัตตา
เพราะอรรถคือหาสารม์ได้ฉะนั้น คำว่า "เพราะอรรถคือหาสารม์
ได้" หมายความว่าเพราะไม่มีสารคืออัตตา ที่พวกอัตตาว่าคาดคิด
* * * อนุบ. ๑๓๑/๑๓๓ สีโหนุปสูตร มหาวินัยนา ให้แปลเป็นลักษณะ: เติม เทียบมาน
เป็นลักษณะเดียว เห็นว่าแปลเป็นนันวิตัสดิ์ดีที่แปลนี้ ก็พอได้ความแล้ว จิ้มแปลตามท่าน
ความสังเขปให้โพมสูตรนี้ว่า พระพุทธองค์ก็แสดงความไม่เที่ยงไม่อึดอัดแห่งบุญขัันธ์
พวกทวดซึ่งสำคัญว่าพวกตนเป็นพวกยืนไม่รู้จักแก่ใจ ได้ฟังพระธรรมเทศนานั้นแล้วได้สำเหนียก
รู้ความจริงขึ้น ก็เกิดความกลัวว่าตัวจะต้องแก่ตาย จะต้องพลัดพรากรมณ์บิดา คูู
สัตว์ทั้งหลายได้ยินเสียงแผดของราชสีห์ก็สะดุ้งกลัวจนั่น