วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๓ ตอน ๒ วิสุทธิมรรค ภาค 3 ตอน 2 หน้า 211
หน้าที่ 211 / 329

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงการกำจัดความมืดในจิตใจผ่านโคตรภูญาณเพื่อเข้าถึงพระนิพพาน เหมือนการเห็นดวงจันทร์เมื่อท้องฟ้าปราศจากอุปสรรค ความสัมพันธ์ระหว่างจิตและสถานะของความจริงจะถูกขยายความผ่านอุปมาและเปรียบเทียบต่างๆ โดยโคตรภูญาณคือเป็นสัญญาที่ช่วยชี้นำสู่มรรคทางจิต.

หัวข้อประเด็น

-การบรรเทาความมืด
-โคตรภูญาณ
-พระนิพพาน
-อนุโลมจิต
-อุปมรรยาญ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโคม- วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๓ ตอน ๒ (ตอนจบ) หน้าที่ 211 อีกลูกหนึ่งกำจัดพลาหกแมงง ๆ (ไปหมดสิ้น) ที่นั่นบุรุษนี้ครับ ท้องฟ้าปราศจากพลาหกแล้ว ก็เห็นดวงจันทร์ราบนักรณ์โยกได้ ในข้อปามและบงในนั้น ความมืดคืออิสรอย่างกลาง อย่าง หยาบ และอย่างละเอียดปนดั่งสังข์ ยาเปรียบเหมือนพลาหก ๓ ชั้น อนุโลมจิต ๓ เหมือนมด ๓ ลูก โคตรภูญาณเหมือนบูรศัตต์ พระ นิพพานเหมือนดวงจันทร์ การบรรเทาความมืดบังจะจงแห่งอนุโลมจิต แต่ดวง หยาบนการกำจัดพลาหก ๓ ชั้นตามลำดับแห่งมงแต่ละลูก ความที่เมื่อดวงมืดบังจะปราดไปแล้ว เห็นพระนิพพานหมดดค ได้แห่งโคตรภูญาณ เหมือนการมิเมื่อท้องฟ้าปราศจากพลาหกแล้ว เห็นดวงจันทร์ร่องกระจ่างได้แห่งบูรศุบเน้น ก็แสดง ๑ ลูกอาจกำจัดแต่ พลาหกบังดวงจันทร์ได้เท่านั้น หากอาเห็นดวงจันทร์ไม่ ฉะใดว่า อนุโลมจิตทั้งหลายก็อาจบรรเทาแต่ความมืดบังดังจะได้เท่านั้น หากอา เห็นพระนิพพานได้ไม่ คืนนั้นบูรศุบอาจเห็นได้แต่ดวงจันทร์ (แต่) ไม่อาจกำจัดพลาหกได้ฉันใด โคตรภูญาณก็อาจเห็นพระนิพพาน ได้เท่านั้น ไม่อาจบรรเทาความมืดคืออิสรได้ฉันใด ก็เพราะเหตุนัน แหละ โคตรภูญาณนั้น ท่านจึงเรียกว่า อารชนะแห่งมรรคน [อุปมรรยาญอาศัยสัญญาจากโคตรภูญาณ] จริงอยู่ โคตรภูญาณนั้น แม้เป็นอนาวัชนะ (คือไม่ใช่อาวัชนะ) (แต่ว่า) ตั้งอยู่ในฐานแห่งอาวัชนะ ราวกับให้สัญญาแก่มรรฆว่า "ท่าน" จงเกิดอย่างนี้" แล้วจึงดับไป ฝ่ายมรรฆก็ไม่ปล่อยสัญญาแห่งโคตรภูญาณ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More