การวิจารณ์เกี่ยวกับกิเลสและการตรัสรู้ วิสุทธิมรรค ภาค 3 ตอน 2 หน้า 241
หน้าที่ 241 / 329

สรุปเนื้อหา

เนื้อหานี้เผยแพร่แนวคิดเกี่ยวกับสถานภาพของกิเลสในปัจจุบันและอนาคต แม้ว่ากิเลสที่ดำรงอยู่จะสามารถมองเห็นการหยุดยั้งจากความปรารถนา โทสะ ความหลง และอื่นๆ แต่ก็มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับการตรัสรู้ธรรมที่อาจไม่มีอยู่เลยเมื่อไม่มีการเข้าใจปัญหาของกิเลสอย่างถูกต้อง ผ่านคำอภิปรายที่เปรียบเทียบ และการใช้สำนวนอุปมา เป็นการนำเสนอที่เชิงปรัชญาอย่างลึกซึ้ง สื่อสารผ่านความซับซ้อนของจิตใจและการทำความเข้าใจอาจนำไปสู่ความหลุดพ้นได้ในที่สุด ข้อเสนอของเนื้อหาเน้นให้เห็นถึงการตั้งคำถามในความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องของกิเลสและหลากหลายมิติของการตรัสรู้ที่ปรากฏอยู่ในบทสนทนา.

หัวข้อประเด็น

-การวิเคราะห์กิเลส
-วิจารณ์เรื่องอวิชชา
-ตรัสรู้ธรรม
-เปรียบเทียบปรัชญา
-ความหมายของอนาคตและปัจจุบัน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค ๑ - วิริยะมีการแปล ภาค ๓ ตอน ๒ (ตอนจบ) หน้าที่ 241 และ นัยเดียวกันนั้น กล่าว (วิจารณ์) ว่า "หากว่าอิเลส ทั้งหลายที่เป็นอนาคต ไชร ถ้ากระนั้น ก็ชื่อว่าสิ่งที่ยิ่งไม่เกิด สิ่งที่ยิ่งไม่ ผลิด ละสิ่งที่ยิ่งไม่ ปรากฏ ละสิ่งที่ยิ่งไม่มาถึง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่ (นะฐี)" แล้วจึงปฏิว่าสว่า "มีใช่ก็เลสทั้งหมดหลาย ที่เป็นอนาคตดอก" และนัยเดียวกันนั้น กล่าว (วิจารณ์) ว่า "หากว่ากิเลสทั้งหลาย ที่เป็นปัจจุบันใช้ ถ้ากระนั้น คนกำหนัด ก็ระงับ คนขัดเคือง ก็ละ โทสะ คนหลง ก็ละโมหา คนหัวดี ก็ละมานะ คนดิบมัน ก็ละทิฐิ คนมิจฉาทิฏฐิพุ่งๆ ไป ก็ละอุจริจจะ คนปลดใจไม่ตก ก็ละวิจิกิจฉา คนมีกิเลสเร่ร่าน ก็อาจสู็ย ธรรมค้านธรรมบาว ก็ (เลย) เป็นคู่แอกกันเป็นไป มรรกาวานก็เป็นสิ่งกลิสิกสาธรมไป (นะฐี)" แล้วจึงปฏิว่าสว่ามี "ไม่ใช่กิเลสทั้งหมดที่เป็นอุดดิค มีใช่กิเลสทั้งหมดที่เป็นอนาคต มีใช่กิเลสทั้งหมดที่เป็นปัจจุบัน ดอก" ดังนี้ ครั้งปัญหาข้อสุดท้ายว่า "ถ้ากระนั้น (คือถ้ากระละกิเลสใน ๑ กาล และกิเลสมี ๑ กาล ไม่ถูกต้องกัน) มรรกาวาน ก็ชื่อว่าไม่มี การทำผลให้จงสิ่งไม่มี การละกิเลสไม่มี การตรัสรู้ธรรมก็ไม่มี (นะฐี)" ท่านรับด้วยคำว่า "มิใช่มรรกวามไม่มี ฯลฯ มิใช่การตรัสรู้ธรรมไม่มีคำ" แล้วกล่าวว่า "เปรียบเหมือนอะไร" จึงกล่าวคำ (อุปมาอุปไมยต่อไป) นี้ว่า "อุปมาเหมือนดินไม่รับ ยังไม่
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More