ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - วิสุทธิมรรคเปล ภาค ๓(ตอนจบ) - หน้าที่ 66
เป็นจิตยังรูป อิฐิอบ และวิญญูติ ให้เกิด (กงึ)
ไม่ยังรูป อิฐิอบ และวิญญูติ ให้เกิด (กงึ)
ขยายความว่า โดยความวาจิ ติต ๒๘ คือ กุลธิด ๘
อุกฺกสติ ๑๒ กริยาจิต ๑๐ เว้นนโมธาตุ อภิญญาอิต ๒ โดยเป็นกุลส
และกิริยา ยังคง อิฐิอบ และวิญญูติให้เกิดได้
จิต ๒๖ คือ กามาวจิจ ๑๐ ที่เหลือ เว้นวิญญูติ อุปจารจิต ๑ํ
จิต ๒๘ทั้งโคจ รจิตอีก ๘ ยังคงรูปและอิฐิอบให้เกิดได้ (แต่) ไม่ยัง
วิญญูติให้เกิด
จิต ๔๘ คือ วงฺจกิจ ๑๐ ในกามาวจิจ ๕ ในปาวจิจ
มโนธาต ๓ อุกฺกสติ ๑๒ อุปจารณวิญญูติฝ่ามือ เป็นโสมาสกวต ๑
ยงูงปอย่างเดียวให้เกิด ไม่ยังอุปจารวิญญูติให้เกิด ไม่ยังวิญญูติให้เกิด
จิต ๑๖ คือ ปัญจวิญญูติ ๒ (เป็น ๑๐) ปฏิสันถิตของสัตว์
ทั้งปวง ๙ จุดจิตของพระจินาสพัทหลาย ๙ อาจปรวิตกจิต ๔
ไม่ยังรูปให้เกิด ไม่ยังอิฐิอบให้เกิด ไม่ยังวิญญูติให้เกิดเลย
อันึ ในจิตเหล่านี้ จิตเห่าดบใดอุปจารให้เกิดได้ จิตเหล่านั้นก็
ได้ยังรูปให้เกิดในจิตเดียว หรือ รังคณะ เพราะจิตในนะแ (ทั้งสอง)
นั่นเป็นจิตอ่อนกำลัง แดจิตในอุปปมาณะเป็นจิตกำลัง เพราะเหตุนัน
จิตนี้อาศัชวัตรูปอันเกิดก่อนในนะแน่น จึงยังรูปให้เกิดได้
อรูปนึ ๓ และรูป ๑๓ อย่าง คือ สัททามรรกูป (นัย ๕)
กายวิญญูติ วิจิญญูติ อากาสาต สุขตา มุตตุ คัมมัญญา อุปนะ
* ปราชะเป็น นุติ แต่ในมาหฤทูวาเป็น น. เป็นว่าปราชะมหฤทูวาเกี่ยกว่า เพราะแปลได้ความ
ดังที่แปลไว้ที่นี้