ข้อความต้นฉบับในหน้า
การกุฎิรูปหนึ่งยังไม่มาเพียงใด ก็ไม่ทำสงฆรรมเพียงนั้น ก็เลย
ในข้อย การรอคอยหาได้เป็นบุญของภิกษุผู้อยู่แรมนี้ไม่ แก
การกำึงถึงการรอคอย (นั่น) เป็นบุญิ เพราะฉะนั้น ภิกษุผู้อยู่
นิรโรพพึงดำเนินอย่างนี้ว่า "ถ้าเมื่อเรานั่งนร่ออยู่ วัน สงฆ์ใคร
จะทำกรรมอะไรก็อย่างนี้ ในบรรดาสมรรถกรรมมิฏฐิกรรมเป็นฉบับนี้
เราจักออก (ทันที) ไม่ทันทีภิกษุสักรูปหนึ่งจะมาเรียกเรา" ด้วยว่า
ทำอย่างนี้แล้วจึงเข้า เรยอมจะออกให้ทันทีในเวลานั้น ส่วนภิกษุใด
ไม่ทำอย่างนั้น ต่อสงฆ์ประชุมกันแล้วไม่เห็นภิกษุผู้นั้นอยู่ ถามว่าก็
ภิกษุไม่นำไปไหน ครับ ภิกษุรูปหนึ่งบอกไปว่าเธอเข้าร้อนร้ายสงฆ์จะส่ง
ภิกษุรูปหนึ่งไปด้วยว่า "เธอองไปเรียกภิกษุรูปนั้นตามคำ (สั่ง) ของ
สงฆ์" จนเมื่อภิกษุ (ผู้ไปเรียก) นั้น (ไป) ยืนในสวนป่า (ที่ใกล้พล
เธอได้ออก เพราะฉะนั้นชื่อว่าอานนา (คำสั่ง) ของสงฆ์ ย่อมเป็นการหนัก
(คือเป็นสำคัญ จำต้องเคารพ) อย่างนี้ เหตุนี้ ภิกษุผู้นี้จึงควร
กำึงถึงการรอคอยแห่งสงฆ์นั้น แล้วจึงเข้าอย่างที่จะออกได้เองที่เดียว
(ไม่ต้องให้เรียก)
[สุดฏุปิวาสนะ]
แม้ในข้อว่า "สุดฏุปิวาสนะ" นี้ ก็การกำึงถึงการรับส่งให้หาแห่ง
พระศาสดา นั่นแหละเป็น (บพ) ก็ของภิกษุ (ผู้จะเข้าป่า) นี้ เพราะ
เหตุฉะนั้น แม้การรับส่งให้หาแห่งพระศาสนานั้น เธอก็ควรคำนวณอย่างนี้
* คำยำกำหนดกาไว