ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยคสม- วิษณุธิรมกาแปล ภาค ๑ ตอน ๒ (ตอนจบ) ที่หน้ที่ 292
อยู่ (ไม่ทำอันตรายท่าน) คนทั้งหลาย (เห็นเป็นอัครรรกิเดือมไล)
จึง (ช่วยกัน) ใช้ฆ้องดังก้องดัง แล้วกาดเช่าถ่านทำเป็นวงของ
(รอบองค์พระเกศา พานไปเก็บดอกไม้)m ไป โบยดอกไม้ลง (ในงง
ขอบนัน เป็นเครื่องบูชา) แล้วต่างยืนมีสาครอยู่ (โดยรอบ) พระ-
เธระออก (จากนิรโธ) ด้วยอย่างจากที่กำหนดไว้ เห็นคนทั้งหลายนัน
อึนใหญ่รอรอบตัว) ก็ถือว่า“เรากิดเป็นคนปาราฎ (คือเด่น) เสียแล้ว"
จึงโล่งขึ้นสู่หวาส (เหาะ) ไปสู่เกาะประดิษเสีย (การอธิษฐานให้พสวงในเวลาเช้าโรซ) นี้ ชื่อว่า
นานาพึทรอิโปน-ไม่ยงพลัดที่เนื่องด้วยกันด้วยภาพรูปให้กำเริบ ส่วน
พลัดดูเป็นของเนื่องด้วยตนผู้เดียว เป็นพังผุ้ง อาสนะที่ตน
นั่งก็ดี ก็ท่จะต้องอธิษฐานไว้เป็นส่วนหนึ่งในพสวงนั้นหนมิใม ผู้ผู้นิรมยอมกันกับพสวงนี้ไว้ได้ด้วยอำมอานาเด้นั่นเอง จุดพลูของท่านพระสัชชีวะ (ที่กล่าวในอธิษฐาน) จริงอยู่ แม้คำบ่นนี้ก็ได้กล่าว
ไว้ว่า "ฤทธิปาคแผ้วด้วยอำนาจสมาธิของท่านพระสัชชีวะ ฤทธิปาคแผ้วด้วยอานาจสมาธิของท่านพระสารีบุตร" ดังนี้
[สังเขปปฏิมานะ]
การอธิษฐาน คือคออก แห่งสงฆ์ ชื่อว่า สังเขปปฏิมานะ หมายความว่า
๑. ชาวชมพูทวีปนิยม โปรย โยน สาด เครื่องบูชาโยนที่คารพล นำองค์เดียวกับโปรยลูกปาปของชาวอิรปุโร ทุกวันนี้ ทำใจจัดใส่สาน หรือปิกแจ้นไปตั้งบูชาอย่างธรรมเนียมของเราไม่
๒. ข. ป. ๑๓/๒๕๕๔