ข้อความต้นฉบับในหน้า
ปรโปคฌ - วิชาภิธรรมแปล ภาค ๓ ตอน ๒ (ตอนจบ) - หน้าที่ ๒๘๖
อย่างเดียว ธรรมทั้งหลายนี้ก็ชื่อว่า เป็นอันเธอได้มาแจ้งแล้ว
เหมือนกัน เพราะเหตุนี้นั่นแหละ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่
"อุกเภอกทั้งหลาย สิ่งทั้งปวง อภิญญูพึงทำให้แจ้ง" เป็นอันว่า
คำบาลเมื่อลอิกกล่าวไว้ว่า "อภิญญาเห็นอยู่ (คือรู้โดยประจักษ์อยู่)"
ย่อมทำให้แจ้งซึ่งรูป อภิญญูเห็นอยู่ ย่อมทำให้แจ้งซึ่งเวทนา ฯลฯ ซึ่ง
วิญญาณ อภิญญาเห็นอยู่ย่อมทำให้แจ้งซึ่งกาย... ซึ่งธรรมระนะ ประกอบ
เห็นอยู่ย่อมทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพานอันยังลงสูดนะ (คือเป็นคต-
ธรรม) เหตุนี้ ธรรมทั้งหลายใด ๆ เป็นธรรมอันพระโพธิจาคต้องการ
ให้แจ้งแล้ว ธรรมทั้งหลายนี้ ๆ ก็ชื่อว่าเป็นอันเธอได้ลูกต้องแล้ว
ส่วนการเห็นพระนิพพานในขณะแห่งปฐมมรรค เป็นทัสสนาจิน-
กิริยา (ทำให้แจ้งด้วยทัสนะ-การเห็น) การเห็นพระนิพพานในขณะ
แห่งมรรคที่เหลือ เป็นวนาสัจจกิริยา (ทำให้แจ้งด้วยวนาสัจจกิ-
ริยา) ทำให้แจ้งดังนี้แหละ-การทำให้แจ้งด้วยอำนาจ
ของสมณะชาการที่ศีล-การเห็นในขณะอ-
แห่งวรรที่เหลือ เป็นวนาสัจจกิริยา (ทำให้แจ้งด้วยวนาสัจจกิ-
ริยา) สัจจะกิริยานั้นทั้ง ๒ อย่าง ท่านประสงค์เอาในสวนจิสัจจะ-
กิริยา เพราะฉะนั้น พึงทราบว่าการทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพานด้วยอำนาจ
ทัสสนะและภาวนานั้นเป็นกิจแห่งบาญนี้
๑. ข. ป. ๑๓/๕๐
๒. ข. ป. ๑๓/๕๑
๓. มหาภูกาอธิบายว่า โสดาปฏิมวรร ฯ ชื่อว่า ทัศนะ เพราะเห็นพระนิพพานก่อน และว่า
โคตรภูญาณเห็นพระนิพพานก่อนว่า โสดาปฏิมวรร ฯ จริง ๆ แต่ว่าโคตรภูญาณนั้นเห็นโดยเพียงทำ
พระนิพพานเป็นอารมณ์ จงไม่เรียกว่า ทัศนะ เพราะมิได้กำหนดทีพังทำ