ประโยคสุข - วิถีธรรมกรมแปล ภาค 1 ตอน 2 (ตอนจบ) วิสุทธิมรรค ภาค 3 ตอน 2 หน้า 299
หน้าที่ 299 / 329

สรุปเนื้อหา

บทความนี้สำรวจเกี่ยวกับธรรมะที่เกี่ยวข้องกับกาสิรยาและการพัฒนาจิตใจในประสบการณ์ป่วยไข้ โดยชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการรักษาจิตใจให้สงบและการเข้าถึงนิพพานผ่านอำนาจของพระอริยบุคคล ผู้มีวิทยาศาสตร์ทางปัญญาและการเผยแพร่ธรรมะที่ถูกต้อง ซึ่งส่งผลให้เกิดการบรรลุธรรมในที่สุด ด้วยการเข้าใจขันธ์และการพัฒนาสมาธิ โดยอ้างอิงงานศึกษาในภาค 1 ตอน 2 ของวิถีธรรมกรมแปล

หัวข้อประเด็น

-กาสิรยา
-นิรโษบามติ
-วิถีธรรม
-การพัฒนาจิตใจ
-นิพพาน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยคสุข - วิถีธรรมกรมแปล ภาค 1 ตอน 2 (ตอนจบ) หน้าที่ 298 ว่าด้วย "ดูกอาวุโส คนที่ทำกาสิรยาตอนนี้ใด ใครส่งขบ ทั้งหลายของคนผู้นั้นรังรับไป วิถีส่งขบทั้งหลาย...จิตส่งขบ ทั้งหลายก็รังดับไป อยู่อย่างสงบ อินทรีย์ทั้งหลายแตก (ส่วน) ภิกษุเข้าสัญญาเวติในโรคนี้ได้ กายส่งขบทั้งหลายของภิกษุ นั้นรังดับไป วิถีส่งขบทั้งหลาย...จิตส่งขบทั้งหลายรังดับไป (เหมือนกัน) แต่ถึงยังไม่สิ้น ไอ่อนไม่ยังไม่ลง อินทรีย์ทั้งหลาย ยังไม่แตก" ดังนี้ [นิรโษบามติเป็นสงคตะหรือสงคะ ละฯ] ส่วนในคำถามว่า "นิรโษบามติเป็นสงคตะหรือสงคะ" เป็นต้น ไม่ควรกล่าวว่า นิรโษบามติเป็นสงคตะดี ว่าเป็นสงคะ ดีดิว่าเป็นโลภะดีว่า เป็นโลภะตะดีว่า เพราะอะไร เพราะนิรโษ- มามติขันธ์ ไม่อยู่โดยสภาวะ แต่เหตุใด นิรโษบามติขันธ์ นับว่า เป็นอันได้เข้าถึงแล้ว ก็โดยอำนาจของพระอริยบุคคลผู้เข้า เหตุุนั้น จะกล่าวว่า เป็นกรรมสำเร็จ ก็ครออยู่ มีไม่สำเร็จ บันทิตทั้งหลายเจริญอดิรปัญญาแล้ว จึงเข้า สมบัติอันละเอียด (สุญม) ที่พระอธิษฐานะ เทพ ถึงซึ่งอันบ่าวเป็นนิพพานในที่สุด- ๑. ม. ม. ๑๒/๕๒ ๒. มหากุฏิบรรยันว่า สถานที่โดยสภาวะ คือ โดยปรมัตถ์ จึงกล่าวว่า เป็นสงคะสงตะเป็นต้นได้ สิ่งไม่มีอยู่ ก็กล่าวไม่ได้
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More