วิสาสะมิรณแปล ภาค ๑ ตอน ๒ วิสุทธิมรรค ภาค 3 ตอน 2 หน้า 138
หน้าที่ 138 / 329

สรุปเนื้อหา

ในบทนี้ พระโยควารได้เห็นความแปรปรวนของโลกและการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปของขันธ์ โดยเปรียบเปรยกับภาพที่มองดูม้าหรือพยับแดด. พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหมายถึงการมองเห็นความแตกต่างของธรรมชาติ รวมถึงความสำคัญของบุญปัญญาและอนิสงส์ในการดำรงชีวิต. ความแข็งแรงของญาณคือกุญแจสำคัญในการเข้าใจความจริงของชีวิตและการปฏิบัติธรรม. เนื้อหาได้สร้างแนวคิดและแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ศึกษาธรรมะ.

หัวข้อประเด็น

-ความหมายของขันธ์
-ความแตกต่างของชีวิต
-การมองโลกผ่านมุมมองของพระโยควาร
-บุญปัญญาและอนิสงส์ในธรรมะ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - วิสาสะมิรณแปล ภาค ๑ ตอน ๒ (ตอนจบ) หน้าที่ 138 ทั้งหลายที่คนื่้ออยู่นั้น พระโยควารนั้น ย่อมเห็นวา "สงขลา ทั้งปวงกำลแตกอยู่ ฯ" ประจุบุรุษผู้มีตา (ดี) ยืนอยู่ที่อรสะ โบกทรณี หรือที่ลิงแม่บำ เมื่อฝนมีครภตกลงมา จะพึงเห็นดอนน้ำ ใหญๆ บนหลังน้ำ ซึ่งเกิดขึ้น ฯ แล้ว พลันแตกไปโดยเร็วว่านั้น แท้จริง พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงหมายถึงพระโยควารเห็นนานนี้ ตรัส ไว้ว่า "มัจฉารายอ่อน (หาด่) ไม่พบ ซึ่งบุคคล ผูมองดูโลก (คือขันธ์) เหมือนอย่างมองดู ต่อม้า เหมือนอย่างมองดูพยับแดด" [อนึ่งสงคลานูปนาม] เมื่อเห็นอยู่เนือง ๆ ว่า "สงขาทั้งปวงแตกอยู่ ฯ" อย่างนั้น ก็ด้านบุญปัญญานั้นอันอิศสงส์ ๘ เป็นบริวาร ย่อมเป็นญาณมีกำลัง นี้เป็นอนิสงส ฯ ในคำนั้น คือ ภาวภูมิรูปาน กาลภาวภูมิได้ ชีวิตนฤมิตปริจฉา กาลสละความใดในชีวิตได้ สภาพ ยุคตูปุตตต ความประกอบ (ภวานา) อันชอบ ทุกเมื่อ (ทั้งกลางคืนและกลางวัน) วิสุทธิจิวิกิตา ความมืออิทธิระหงดด * ปาฏจะพิมพ์ไว้เป็น ปลสมุโฑ คลากเดื้อร เท็จดำเป็น ปลสุโต
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More