ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยคศาสนา - วิถีธรรมกรรมแปล ภาค ๓ ตอน ๒ (ตอนจบ) หน้าที่ 255
ไม่มีการทิ้งไป อรรถคือเป็นสิ่งไม่ภูมิปรุงแต่งแห่งนิรอรสัง กิริปรากฎ ชัดด้วยการเห็นบรรลุง เพราะบรรลุเป็นธรรมที่โจคาวผู้ไม่เคย เห็นมาแต่ในสงสารอันมีเมืองดำเมืองปทุมที่รูปไม่ได้ องันล่านั้นจึงเป็นสังคธรรมหม่ เพราะเป็นธรรมยังเป็นไปกับปัจจัย เหตุนั้น ความที่นิรอรสอันเป็นธรรมมหาอัญจึงมิได้เป็นสังคธรรรม จึงเห็นชัด ยิ่งนัก องัญ อรรถคือเป็นสิ่งไม่ตายแห่งนิรอรลั้น ก็ปรากฏชัดได้ด้วย การเห็นทุกข์ช เพราะทุกข์เป็นพิษ (ที่ทำให้ตาย) นิพพาน (คือ นิรอโร) ไม่ตายและ นัยเดียวกันนั้น อรรถคือเป็นเหตุแห่งมรรคสัจ ซึ่งแม้มีการ ปล่อยไม่เป็นลักษณะ ย่อมปรากฏชัดด้วยการเห็นสมุทัยสัง โดยยั้ง เห็นว่า "สมุทัยนี้เป็นเหตุ มรรคนี้เป็นเหตุแห่งการถึงนิพพาน" อรรถคือเป็นดวงดาวแห่งมรรคสัจจ ก็ปรากฏชัดได้ด้วยการเห็นนิรอรสัง (ตั้ง เป็นธรรมสุขลุ่มลึกถึงนิพพาน) ดูความใสแห่งอัญปรากฏได้ด้วยการเห็นนิรอรสิ่ง แสดงรูปทั้งหลายที่ละเอียดอย่างยิ่ง โดยหยั่งรู้ว่า "ตายของเราไล่นะ" อรรถคือเป็นอธิบดีแห่งมรรคสัจจ ก็ปรากฏชัดได้ด้วยการเห็นทุกข์จ จุดความอโวราแห่งอิสราน ปรากฏชัดด้วยการเห็นบุคคลอยู่ด้วยโรคมากอย่าง ฯ นั้นแนล ในมรรคญาณนิเทศนี้ เป็นการกล่าวอรรถของัจจะข้อ ๔ By คำความที่อรรถอันหนึ่งปรากฏชัดด้วยอำนาจเป็นลักษณะของตน และ
* ประเด็นที่ไม่เป็น เอกกสูญ เข้าใจกาลเคลื่อน ที่ถูกเป็น เอกสูญ ประจมหาดูภาคนี้เป็น
เอกสูญ เหมือนกัน เพราะได้ความตรงกับความที่กล่าวมาแล้ว หมายถึงอรรถอันแรกขององค์จะนั่น ฯ ได้แก่ ปี พฺยูน อนิสูตร นุรียาน