ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค- วิจารณ์ธรรมแปลภา ๓ ตอน ๒ (ตอนจบ) - หน้าที่ 309
ของภิญญาเหล่านั้น เป็นพระมหาเจินสภาได้ปฏิสัมภิทา (สามารถ) ยี้น
ปรวา (คือข่มคำใต้ฝ่าอื่น) ได้ ครั้งนั้นตอนกลางคืน พราหมณ์-
มานพบวิจารณ์ด้านปณิธานฺให้มีบทสรุปบูรณ์ และเป็นปรินิทธ
พระเถรฟังเสียงพราหมณ์สายยายมณี ก็ทราบว่าพราหมณ์ผู้นี้มีปัญญา
มาก คิดว่าทรมาน (คือข่มและชูกจูงให้นับถือพระศาสนา) ได้จะ
เป็นการดี จึงเรียกพราหมณ์นั้นมา ถามเปรยขึ้นว่า "พราหมณ์" ใคร
หนอ ร้องเป็นเสียงลา" พราหมณ์ตอบว่า "บรรพชิตผู้เจริญ ท่านรู้
เสียงร้องของพวกกลางหรือ" พระเถรรับว่ารู้ พราหมณ์นั้นจึงถาม
พระเถรในด้านฐิฐาน (คือข้อที่เป็นมุ่งเข้าใจยา) ทั้งหลายในคัมภีร์
ไตรเทว ทั้งคัมภีร์อิตาฎสเป็นคัมภีร์ที่ ๕ ซึ่งตนเองมองไม่เห็นนัยเลย
ทั้งภาระยกองค์กษเป็นคัมภีร์ที่ ๕ ซึ่งตนเองมองไม่เห็นนัยเลย
ทั้งอาการขัดของตนก็ไม่เห็นมาแล้วด้วย อันพระเถรนั้น โดยปกติ ก็เป็น
ผู้บใดเทพอยู่แล้ว ชำนิฉ้นก็ไม่ได้ปฏิบัติภิกษาอีกแล้ว เหตุฉนี้
ความหนักในการแก้ปัญหาเหล่านั้นจึงหมิ่นเท่าไม่ เพราะฉะนั้น ท่าน
จึงแก้ปัญหานั้นได้ในทันที แล้วกล่าวว่า พระมหานั้นว่า "พราหมณ์"
ผู้เจริญ ข้าพเจ้าถูกท่านถามมากแล้ว ที่นี่จะถามปัญหาท่านสักข้อ
หนึ่ง ท่านจึงแก้ปัญหาของข้าพเจ้าหรือไม่" พราหมณ์รับจะตอบ นิมนต์
ให้ถาม พระเถรจึงถามปัญหาในคัมภีร์ (ยมก ตอย) จิตตยมนี้ว่า
"ยสูส จิตตอ อุปปชูชติ น นิริญญติ ตสโล จิตตอ นิริญฺญเสติ"
* ปราวุตติ-วิจารณ์ แปลว่าหนุมรอบ ปรินิทธฺ แปลว่ามากลม จะเป็นวิธีสาธยาย
มนตรีหนึ่ง ซึ่งเปลี่ยนบทมณฑลดอ้งกันถึงปลายแล้วกัน นำว่าจะกลมเป็นรอบ ๆ ไป
อย่างพวกเราสาธยาย อติปีโล ๑๙๙ จบ หรืออย่างไร ?