ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค- วีสิทธิมารมเปล่า กาด ค ตอน ๒ (ตอนจบ) - หน้าที่ 78
ใน ๕ ปีแรก กื่อออมดบไปใน ๕ ปีแรกนั้นเอง ไปถึง ๕ ปี ๒ เหตุ
นั่น รูปใน ๕ ปีแรกนั้นจึงชื่อว่าไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา รูปอันเป็น
ไปใน ๕ ปีที่ ดั้งไปใน ๕ ปีที่ ๒ นั้นเอง ไม่ถึง ๕ ปี ๑๓๓
รูปอันเป็นไปใน ๕ ปีที่ ๑๔ ดั้งไปใน ๕ ปีที่ ๑๔ นั้นเอง ไม่ถึง ๕ ปี
ที่ ๒๐ รูปอันเป็นไปใน ๕ ปีที่ ๒๐ อันจะสามารถ (เป็น) ไปอแค่
มรรคะก็หารมิไม่ เหตุนี้นั้น แม้รูปอันเป็นไป ๕ ปีที่ ๒๐ นั้น ก็ชื่อว่า
ไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา"
[ซอ๑๑๑ ปี เป็น ๒๕–๑๓๓–๕๐–๑๑๑ ส่วน]
ครั้นยกขึ้นสู่ไตรลักษณ์โดยอุฏฐมิตตคมะ ด้วยเหตุส่วน ๒๐
อย่างนี้แล้ว ทำ (๕๓ ปี) ให้เป็น ๒๕ ส่วน ยกขึ้นด้วยเหตุ (ส่วน
ล่ะ) ๕ ปี ๆ นั้นเดียวกันนั้น ทำให้เป็น ๑๓ ส่วน ด้วยเหตุ (ส่วนล
ะ) ๗ ปี ๆ แล้วทำให้เป็น ๔๐ ส่วน ด้วยเหตุ (ส่วนล่ะ) ๒ ปี ๆ
แล้วทำให้เป็น ๑๐๐ ส่วน ด้วยเหตุ (ส่วนล่ะ) ๑ ปี ๆ
[ซอปี ๑ ให้เป็น ๓ ส่วน]
แต่นั้นทำปี ๑ ๆ ให้เป็น ๑ ส่วน ยกขึ้นสู่ไตรลักษณ์ในวโโย-
ุทัศตัดลูปนี้ ด้วยเหตุถูกดู ๓ คือ กาฬฝน กาฬหนาว กุร้อน
ที่จะดู อกขึ้นอย่างไร ? คือ พระโโยคนันไตรตรงเห็นดังว่าว่า "รูป
อันเป็นไป ๔ เดือนในฤดูฝน ก็ด้บไปแล้วในฤดูฝนเอง ไม่ถึงดูดุ
หนาว รูปอันเป็นไป (๔ เดือน) ในฤดูหนาว ก็ด้บไปแล้วในฤดูค
หนาวนั้นเอง ไม่ถึงดูร้อน รูปอันเป็นไป (๔ เดือน) ในฤดูร้อน