ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโคม - วิจารณ์ธรรมแปล ภาค ๓ ตอน ๒ (ตอนจบ) หน้าที่ 220
นิฉิตตะและปุปะตะ) และพลสมโยก (ความ
ประกอบเสมอกันแห่งสมพะและวิปสานะ)
ควรทราบภาชะธรรมทั้งหลายที่อธิษฐานและ
ควรทราบกิจกิจมิปฐวะมักในที่นกล่าว (ว่า
มี) เป็นในกลสิรัสูตรตามสภาวทุกประกาศด้วยแล
[ขยายความ]
[โพธิปักขิยธรรฺม]
ในข้อความนี้ ข้อว่า "ความมีโพธิปขิยธรรมรับรู้น์" คือ
ความที่โพธิปขิยธรรมทั้งหลายเต็มเปี่ยม ก็ธรรม ๑๓ นี้ คือ สติ-
ปัฏฐาน ๔ สัมปปธาน ๔ อินทรียฺ ๔ อินทรีย์ ๕ และ ๕
โพชงค์ ๙ มรรคมีองค์ ๔ สื่อว่า โพธิปขิยธรรมฯ เหตุเป็นธรรมมีใน
ฝ่ายแห่งอริยมรรคทีไว่ามว่าโพธิ เพราะอธรรว่ามเป็นเหตุรัญสู่
คำว่า "เพราะ...มีในฝ่าย" หมายความว่า เพราะตั้งอยู่ในความเป็น
ธรรมอุตหนุน
[อรรถแห่งสติปฏฺฐาน]
ในโพธิปขิยธรรมแห่งนั้น ธรรมชื่อว่าเป็นฐาน เพราะเล่น
เข้าไปตั้งอยู่ในอารมณ์ทั้งหลาย (มีภายเป็นต้น) ฐานก็คือสมิติ์ของ
จึงได้ชื่อว่า สติปฏฺฐาน ก็สันนัยแตกเป็น ๔ ประการ because เป็นไป