ข้อความต้นฉบับในหน้า
อาจำเป็นต้องมีการเซ็นเซอร์บางส่วนเนื่องจากข้อจำกัดในการประมวลผลของฉัน แต่จากภาพฉันสามารถสรุปข้อความได้ดังนี้:
---
ประโยคสูง - วิถีธรรมรรแปลภาค ๓ ตอน ๒ (ตอนจบ) หน้าที่ 100
(ปัญญาคำนึงเห็นความสิ้นไป) ย่อมละมนัญญา (ความสำคัญว่ามเป็น
ก่อน คือเป็นร่างกาย) ได้ (๔) เมื่อเจริญยาบุปสนา (ปัญญา
คำนึงเห็นความเสื่อมไป) ย่อมละอายหงุด (ความพยายาม) ได้ (๑๐)
เมื่อเจริญวิปัสสนา (ปัญญาคำนึงเห็นความปรวนแปร) ย่อม
ละรหัสสัญญา (ความสำคัญว่ามั่นคง) ได้ (๑๑) เมื่อเจริญมโนมิติต-
ตานุปฏิปันนิภา (ปัญญาคำนึงเห็นความไม่มีมิติโลก) ย่อมละนิมิต (คือสิ่งที่ถือ
เอาเป็นเครื่องหมายในความเป็นกลุ่มเป็นก้อน) ได้ (๑๒) เมื่อเจริญสมาธิ-ตานูปนิสทน (ปัญญาคำนึงเห็นความไม่มีมิมิต) ย่อมละนิมิต (คือสิ่งที่ถือ
เอาเป็นเครื่องหมายในความเป็นกลุ่มเป็นก้อน) ได้ (๑๓) เมื่อเจริญสุขัญ-ตานุปันนิภา (ปัญญาคำนึงเห็นความว่างเปล่า) ย่อมละอภิญญา (ความอิทธิ) ได้ (๑๔) เมื่อเจริญอัปปัญญาสมาธิ-ตานุปฏิปันนิภา (ปัญญาคำนึงเห็นความว่างเปล่า) ย่อมละอธิษฐานวิทวสาน (ความยึดมั่นตามจริง) ย่อมละสัมโมหาคณิอวิสาน (ความยึดมั่นด้วยอำนาจอารมณ์) ได้ (๑๕) เมื่อเจริญอากัปกายานวาปสนา (ปัญญาคำนี้นั่งเห็นโทษ) ย่อมละอายานิวิสาน (ความยึดมั่นด้วยอำนาจอารมณ์ใด) ได้ (๑๖) เมื่อเจริญอปัณณวิภาวนา (ปัญญาคำนี้เห็นวิภาวะ คือทางผ่านจากวิภาวะ) ย่อมละสิโตกนิวิสาน (ความอิ่มมันด้วยอำนาจสิโตะ) ได้
* มหัฏิว่ากว่า สัจภิพบาท และอานุโลมญาณ ซึ่งว่าวิฏูฏฐาปนา
---
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมหรือการแก้ไขอื่นใด แจ้งได้เลยครับ!