ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - วิญญาณภิรม - ตอน 2 (ตอนจบ) - หน้าที่ 169
เป็นกลางวางแขนได้เป็นแท่นใจ พระ โอวาทนี้ก็คือนั้นเหมือนกัน
เป็นผู้ใครจะพ้นไปเสียจากสังข์ทั้งปวง จึงกำหนดสังข์ทั้งหลายด้วย
ปฏิสานูปนาลา ฯ เมื่อไม่เห็นความสังข์ทั้งปวงเป็นสิ่งที่น่าเกลี่ยอา
ว่าเป็นเรา เป็นของเราแล้ว ก็จะความกลัวและความยินดีเสีใด ก็
ย่อมเป็นผู้เป็นกลางวางแขนในสังข์ทั้งปวงได้ เมื่อเธออยู่ย่างนั้น
เห็นอย่างนั้น จิตย่อมถอย ย่อมหด ย่อมกลับ ไม่หยิยชื่นไปใน
ภพ ๓ กำเนิด ๔ คติ ๕ วิญญาณธี ๓ สัตตวาส ๖ อุบกขา
(ความวางแขนในสังข์ทั้งหลาย) หรือปฏิญาณตา (ความน่าเกลียด
แห่งสังข์ทั้งหลาย ?) ย่อมตั้งมั่น เปรียบเหมือนหยาดน้ําหลาย
(อันตกลง) ในใบทุ่มเทียงหน่อยมหนึ่ง ย่อม (กลิ้ง) ถอยกลับ (ลง
น้ำ) ไม่ (กลิ้ง) ยึดไป (ในใบทุ่ม) ฉันใด ก็ฉันนั้นเหมือนกัน...
อันงั่งวางแขนใน หรือเดินและนั่งใน ต้องไฟใช้อย่าหมด
ออกกลับไม่หยิยดไป (ในไฟ) ฉันใด จิตของพระโอกาวรนั้นย่อมถอยอ
ย่อมหดอย่กลับไม่หยิยดื่นไปในภพ ๓ อุบกขา หรือปฏิญาณตา
ย่อมตั้งมั่นนั้นนั้น
อันสังข์ราคาทิวา ย่อมเป็นอันเกิดขึ้นแต่พระโอกาวรนั้น
ด้วยประการะนี้
[สังข์ราคาทิวาเหมือนกันกานภาคคิ]
แต่ว่่าสังข์ราคาทิวานี้นั้น ถ้าเห็นพระนิพพานอันเป็นสัมบิฬ
* ความวางแขน กับความน่าเกลียด จะเป็นพวกเดียวกันได้อย่างไร นก็ไม่เห็น