ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค- วิสัชกรมรเปล กาด ตอน 2 (ตอนจบ) - หน้าที่ 70
ให้ตั้งขึ้น (ต่อไปอีก) รูปมีกุญแจเป็นสมุฏฐาน แม้ดังอยู่ในฝ่ายอนุทิน-กรูปแล้วก็ยังเป็นไปอยู่เน้นมั่นๆๆ ก็ได้ โดยนัยตั้งกล่าวมานี้ ชื่อ ว่ารูปมีกุญแจมีกุญแจ (ด้ายกัน) เป็นปัจจัยเป็นสมุฏฐาน
โอษฐินดมก็เป็นสมุฏฐานถึงความตั้งอยู่แล้ว ย่อมยังโอษฐินดม-รูปอื่นให้ตั้งขึ้น โอษฐินดมรูปนั้นแหละ ถึงโอษฐินดมรูปอื่นให้ตั้งขึ้น (ต่อไปอีก) สืบต่อความเป็นไป ๑๐ ถึง ๑๒ ทอด โดยนัยดังกล่าว
ฉะนี้ชื่อว่า รูปมีกุญแจมีกุญแจเป็นสมุฏฐาน
ในสมุฏฐานเหล่านั้น ดูดินเป็นปัจจัยแห่งรูปที่มีกุญแจเป็นสมุฏฐาน ทั่งหลาย โดยเป็นสภาพผู้ให้เกิด เป็นปัจจัยแห่งรูปที่เหลือ (คือ รูปมีกุญแจ จิต อาหาร เป็นสมุฏฐาน) โดยเป็นนิสสรปัจจัย อัติปัจจัย และควรคิดปัจจะแล ความเกิดแห่งอุตตรูป บันดิตพึงเห็นดังกล่าวมานะฉะนี้
พระโอฆมาวุดูความเกิดของรูปโดยองค์ดังนี้ แลชื่อว่า จิรา-ณูปฏิมากาล
[อธิษสัมมนะ-พิจารณาอธิษมนากาล]
อันนี้ ความเกิดแห่งรูป พระโอฆาวุผู้พิจารณา ดูรูปนั้นได้ ฉันใด ความเกิดแห่งรูป แม้พระโอฆาวุผู้พิจารณา ดูรูป ก็พึงเห็น ได้ฉันนั้น ก็ความเกิดแห่งรูปนี้ พึงเห็นได้ด้วยอำนาจโลกจิตติ-บาท ๔๕ คงนั่นเทียว โลกจิตุตนนี้อย่างไร? อนุรูปี ชั้นแรก เกิดเป็นจิตตุบาท ๑๔ ประเภท ในปฐมมรรค ด้วยอำนาจกรรมที่สังสมไว้