ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยคสรุป - วิถีธรรมรรแปล ตอน 2 (ตอนจบ) - หน้าที่ 296
กี่แล้ องอุ้มมาด้วยรูปธูปไม่เคยเดินทาง ควร (นามา) กล่าวในความ
ข้อ นี้ ต่างว่ารูปหนึ่งไม่เคยเดินทางสายหนึ่ง มาครำลาธร หรือ
แผ่นหินอันร้อนเพราะแดดล้วน ที่เขาทดลองไว้ข้ามหลีกในระหว่างทาง
ยังไม่ทันจัดผ่านนู่งผูม ลงสู่มุงนั้น ก็อ่อน (ต้องถอนกลับมา) ยืนที่ดีด
อีกอยู่นั่น เพราะกลับบริสุทธิ์ อนึ่ง เท้าร้อนเพราะเหยียบเปนผืน
หินนั้นเข้า ก็อ่อน (ต้องถอนกลมมา) ยืนที่ฟากาในอีกนั่นเอง
ในข้ออุปมานั้น เหมือนอย่างบริสุทธิ์ เหตุที่ยิ่งไม่ได้ดั่งนู่งผูม
พลวงลำธาร (ไปรหนออ) เท่านั้น และพอเหยียบแผ่นหินร้อน (เข้า
หนออ) เท่านั้น ก็อ่อนกลับมยินดีที่ฟากใน (อีก) อยู่มันฉันใด แม้
พระโโยวาทรึฉันนั้น เหตุที่ยิ่งไม่ได้ดั่งนู่งผูม ก็อ่อนดังบัณฑิต
สัญญาณะ สัญญาณะ (ไปหนออ) เท่านั้น ก็อ่อนกลับมายึดอยู่ในอากิฏฐจัญญู-
ยตนะ ฝ่ายบรูษผู้เดินทางสายนันมก่อน มาถึงนั่นนูน บุ้งผา
ฝืนหนึ่งให้ดูด เข็ดผื่นนี้ผื่นนี้ด้วยมือ (ข้างหนึ่ง) แล้วลงลำาธร
หรือทำเหยียบแผ่นหินร้อนแตฟอปรมาณ (คือเหยียบแผ่ว ๆ) ไป
ต่อไปได้ ฉันใด ก็ยิ่งทำบุกจแล้วเขาเนวสัญญาณะ สัญญาณะ
นั่นแหละ จึงเป็นผู้ไม่มีมิจฉามิ สัมผัส (ติ่ง) นิธโรอยู่อไปได้ ฉันนั้น
เหมือนกัน
* อุกกุฏนฤก กับ กุฎนฤ ในที่นี้ ท่านใช้เป็นอันเดียวกัน เพราะฉนั้น เมื่อ อุกกุฏนฤ
ข้างหนามีแล้ว ก็ไม่น่าจะมี กุฎนฤ ข้างหลังอีก ถ้าง กุฎนฤ ข้างหลังไว้ ว่า หลังอุกกุฏนฤ
ก็ออ ในที่นี้จัด กุฎนฤ วา ข้างหล่ออก แปลคู่ได้ความดีแล้ว