ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยคฺ - วิชาภิญญาแปลภาค ๓ ตอน ๒ (ตอนจบ) หน้าที่ ๑๓๖
เอี้ยงไปในความดับนั่น (นึก) ลาดไปในความดับนั่น (นึก) เทไปในความดับนั่น คำว่า "อายลูกขุนวิปัสสนา" มีอธิบายว่า ความพิจารณานั้น ชื่อว่า ลักษณะวิปัสสนา (เห็นแจ้งในลักษณะนั้น) คำว่า "อารมณ์ญาณญาณ ปฏิสุขะ-พิจารณาด้วยแล้ว" คือรู้อารมณ์มีรูปเป็นต้น ที่เป็นอารมณ์แรกด้วยแล้ว คำว่า "รุกฺขุณ" อนุปสติ-ตามเห็นความดับด้วย" คือเห็นความดับแห่งอารมณ์ (แรก) นั้น แล้วตามเห็นความดับแห่งจิตดวงที่อธิบายว่า (แรก) นั้น เป็นอารมณ์ (ด้วย) คำว่า "สุขณโต จ อุปจาระ-ความปรากฏ โดยความงามเปล่า (มีขึ้น) ด้วย" คือเมื่อเธอตามเห็นความดับแห่ง สังขารนั้นอย่างน้อย ความปรากฏโดยความว่างเปล่า ว่า "สังขาร ทั้งหลายมันเองแตก ความแตกแห่งสังขารทั้งหลายมัน" เรียกว่าความ ตาย หามี (อัตตา) อะไร ฯ อื่น (จากขันธ์) ไม่ ดังนั้น ย่อมเจริญขึ้น เหตุนี้ พระโบราณาจารย์หลายท่านจึงกล่าวไว้ว่า
บั้นนี้พึ่งหลายดับ สิ่งอื่นไม่มีเลย ความ แตกแห่งขันธ์ทั้งหลายเรียกว่ายาย พระ โยคาวาจู้ไม่ประมาท ย่อมเห็นความสิ้น ไปแห่งขันธ์ทั้งหลาย ดูดคนดูเจาะแก้ ด้วยเพชรโดยเผยกาย (คือโดยวิธีที่ถูก ต้อง ย่อมเห็นความสิ้นไปแห่งแก้วที่ถูก เจาะ) ฉะนั้น
คำว่า "อธิญาณวิปัสสนา" มีอธิบายว่า ความพิจารณา (รู้) อารมณ์