ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - วิทยภิรมณ์แปล ภาค ๓ ตอน ๒ (ตอนจบ) หน้า ที่ 148
บทญาณ ปัญญาว่า ปวัณตะเป็นสามิ ส อัปปะตะเป็นนิมิสม ฯลฯ
อุปายาสเป็นสามิสม ฯ อุปายาสเป็นนิมิสม ฯ เป็นสันติบาปญาณ
ปัญญาในภูมิฐานว่า อุปปะตะ เป็นสังขาร เป็นอาทิวนญาณ
ปัญญาในปฐมฐานว่า ปวัณตะ ฯลฯ อุปปะตะ เป็นสังขาร เป็นอาทิวนญาณ
ปัญญาว่า อุปปะตะเป็นนิมิพานา เป็นสันติบาปญาณ ปัญญาว่า
อัปปะตะ ฯลฯ อุปปะตะเป็นนิมิพานา เป็นสันติบาปญาณ
ปัญญาว่า อุปปะตะเป็นสังสาร อุปปะตะเป็นนิมพานา เป็น
สันติบาปญาณ ปัญญา โววตะเป็นสังขาร อุปปะตะเป็นนิมพานา
ฯลฯ อุปปะตะเป็นสังขาร อุปปะตะเป็นนิมพานา เป็นสันติบาปญาณ
ภิกขุย่อมเห็นอุปปะตะ ปวัณตะ นิมิตตะ อายุหนะ
และปฏิสนธิ ว่าเป็นทุกข์ ความเห็น (มีวิทู ๕ นี้)
เป็นอาทิฐานญาณ อึ่งอิ เห็นอุปปะตะ อัปปะตะ
อนิมิตตะ อายหนูนะ และปฏิสนธิ ว่าเป็นสุข
ความเห็น (๕ สถาน) นี้ เป็นสันติบาปญาณ อาติ-
นาวานุญาณนี่อ่อนเกิดในสถาน ๕ สันติบาปญาณก็เกิด
ในสถาน ๕ จึงชื่อว่ารูญาณ ๑๐ เพราะความที่เป็น
ผู้ออกในบาปญาณ ๒ ภิกษุนี้จึงไม่หวั่นไหวใน
เพราะทิฐิอันต่าง ๆ และ
ความเห็นนั้น จัดเป็นญาณ ด้วยความหมายว่า รู้ จัดเป็นปัญญา