ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - วิชาภิธรรมแปลภาค ๓ ตอน ๒ (ตอนจบ) หน้าที่ 170
โดยความเป็นธรรมมืออ้ายไร้ ย่อมสะปลิตะ (ความเป็นอยู่) ฝ่าย
ส่งขบทั้งปวงแแล่นไปสูพระนิพพานที่เดียว หากว่าไม่เห็นพระนิพพาน
โดยเป็นธรรมมืออ้ายไร้ ก็อาจมีแต่ส่งขบเป็นอารมณ์เป็นไปแล้ว ๆ
เล่า ๆ อยู่ๆเอง เหมือนนกของพวกสมุทรพาณิช จะแต่ นั่นได้ยินมา
พวกสมุทรพาณิช เมื่อฉันเรื่อยมานำออกบอกิต (ไปด้วย) เมื่อใด
เรื่อถูกพายชุดแล่นไปผิดดิน ฝังไม่ปรากฏ เมื่อฉันพวกเขาก็ปล่อยลา
บอกดี ก็บั้นนั้นทีเสาะระโดง โดดขึ้นสู่อากาศ (บินสำรว) ไปทาง
ทิศใหญ่และทิศน้อยทุกทิศ ถ้าเห็นฝั่ง (ทางทิศ) ก็ (บิน) มุ่งหน้า
ไปก็กันนั้นเดียว ถ้าไม่เห็นก็ (บินกลับ) มาเกาะเสากระโดงรำไปอยู่
นั่นเอง (ฉันใด) ส่งขบบุญกาญนี้กันนั้นเหมือนกัน ถ้าเห็นพระ
นิพพานกันเป็นสนติบาโดยความเป็นธรรมมืออ้ายไร้ ย่อมสะปลิตะ
ฝ่ายส่งขบทั้งปวงแล่นไปสูพระนิพพานทีเดียว อย่างว่าไม่เห็น ก็อมี
แต่ส่งขบเป็นอารมณ์เป็นไปแล้ว ๆ เล่า ๆ อยู่เอง
วิญาณจานนี้นี้ เหมือนเปิบในกระดังที่ถูกย่อย่อยเหมือนฝ่าย
ที่ปล่อน (มลิศ) แล้วถูกอยู่ๆ กำหนดส่งขบทั้งหลายโดยประการ
ต่าง ๆ จนละความกลัวและความยินดีได้แล้ว ก็วงตัวเป็นกลางในการ
ตรวจสอบส่งขบ ยืนตัวอยู่ด้วยอำนาจอนุญาติ 3 เมื่ออันตัวอยู่ๆ อย่าง
นั้น ย่อมถึงซึ่งความเป็นมุข (ปากทาง) แห่งวิญญาณ 3 แล้วเป็น
ปัจจัยเพื่อจำแนกพระอริยบุคคล 3 ประเภท