ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - วิทยุธรรมวาระแปล ภาค ๓ ตอน ๒ (ตอนจบ) หน้าที่ ๒๖๗
พระชนม์พระราชฝ่ายปฏิบัติแล้วได้รับสมบัติ กระทำไว้ก่อนแต่ได้
สมบัติ ดังนี้ ๆ ทั้งปวง ก็กล่าวไว้ว่าพระราชาทรงกระทำเหมือนกัน
ฉะนั้น
[สัตย์ธิฤยกิจก]
ข้อว่า "ไม่สัตย์ธิฤยก" (ก็อย่างนั้น) ความว่า สัจธิฤยกแม้
แยกเป็น ๒ ฝ่าย คือโลกียสัจธิฤยก โลกุตรสัจธิฤยก (แต่) สำหรับ
โลกุตรสัจธิฤยกงเป็น ๓ อย่าง โดยแตกต่างด้วยคำ่านว่าสะนะและ
ภาวนา
ในสัจธิฤยก ๒ นั้น การได้สัมผัสมีกำจุมนเป็นต้น อัน
มาโดยวัว "เราเป็นผู้ได้ปฐมาน เราเป็นผู้เชี่ยวชาญในปฐมาน
ปฐมานนั้นเราทำให้แจ้งแล้ว" เป็นต้น ชื่อว่า โลกียสัจธิฤยก
คำว่า "ผัสสะ- ได้สัมผัส" คือบรรลุแล้ว ได้ถูกต้องโดยญาณ-
ผัสสะ (คือรู้) อย่างประจักษ์ว่า "สิ่งนี้เราได้บรรลุแล้ว" จึงอยู่ พระ
บารมีหมายเอาความอันนี้แหละ จึงกล่าวขึ้นนั้นว่า "สัจธิฤยกเป็นบุญ
โดยอรรถคือได้ถูกต้องด้วยปัญญา" แล้วกล่าวขยายความสัจธิฤยกว่า
"ธรรมทั้งหลายใด ๆ เป็นธรรมอันพระโยคาวได้ให้แจ้งแล้ว
ธรรมทั้งหลายโน่น ๆ ก็เป็นอันเธอได้ถูกต้องแล้ว" ดังนี้ อันนี้ ธรรม
ทั้งหลายใด แม้พระโยคาวรมิได้ทำให้เกิดขึ้นในสนตานนตน (เหมือน
ดังมนและมนรรกผล) (เป็นแต่) รู้ด้วยญาณอนึ่งมิได้มีผู้อื่นสนับสนุน