การตั้งสมมติฐานและประเภทความรู้ทางวิทยาศาสตร์ GB 406 สรรพศาสตร์ในพระไตรปิฏก หน้า 46
หน้าที่ 46 / 373

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงกระบวนการตั้งสมมติฐานในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่นักวิทยาศาสตร์ใช้ในการคาดการณ์คำตอบโดยใช้ข้อมูลจากการสังเกต และการทดลองเพื่อตรวจสอบสมมติฐานนั้น โดยอ้างอิงหลักฐานที่ได้รับมาในการสร้างทฤษฎีที่เป็นที่ยอมรับ นอกจากนี้ยังได้พูดถึงประเภทต่างๆ ของความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่รวมถึงข้อเท็จจริง มโนคติ หลักการ สมมติฐาน ทฤษฎี และกฎ ซึ่งถูกแบ่งแยกอย่างชัดเจนตามลักษณะและวิธีการศึกษา ความรู้เหล่านี้ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถทำนายปรากฏการณ์ธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หัวข้อประเด็น

-การตั้งสมมติฐาน
-การทดลอง
-การสร้างทฤษฎี
-ประเภทความรู้ทางวิทยาศาสตร์
-ข้อเท็จจริง
-มโนคติ
-หลักการ
-สมมติฐาน
-ทฤษฎี
-กฎ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

(3) การตั้งสมมติฐานเมื่อได้คำถามที่เหมาะสมแล้ว นักวิทยาศาสตร์จะลองเดาคำตอบ การเดาหรือการคาดการณ์คำตอบนั้นไม่ใช่เป็นการเดาสุ่ม แต่เป็นการเดา ว่าควรจะเป็นอย่างไร โดยใช้เหตุผลจากข้อมูลที่ได้จากการสังเกต (4) การทดลอง เมื่อได้สมมติฐานแล้ว นักวิทยาศาสตร์จะทำการทดลอง เพื่อพิสูจน์ สมมติฐานนั้นว่าถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้องก็จะตั้งสมมติฐานใหม่ (5) การสร้างทฤษฎี นักวิทยาศาสตร์จะอาศัยหลักฐานจากการทดลองเป็นพื้นฐาน ในการสร้างทฤษฎีต่างๆ ขึ้น ทฤษฎีที่สร้างขึ้นนี้สามารถใช้ทำนายปรากฏการณ์ได้ การทำนาย จะไม่บอกว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน 3.) ประเภทความรู้ทางวิทยาศาสตร์ แต่จะบอกเป็นอัตราส่วนของความเป็นไปได้ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์สามารถแบ่งออกเป็น 6 ประเภท คือ ข้อเท็จจริง มโนคติ หลักการ สมมติฐาน ทฤษฎี และ กฎ (1) ข้อเท็จจริง เป็นความรู้ที่ได้จากการสังเกต ข้อเท็จจริงนั้นจะคงความเป็นจริงอย่าง นั้นเสมอคือ สามารถทดสอบได้ผลเหมือนเดิมทุกครั้ง เช่น น้ำไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ เป็นต้น (2) มโนคติ มาจากภาษาอังกฤษว่า “concept” แปลว่า ความคิดรวบยอด หรือ มโน- ทัศน์ ซึ่งเป็นความรู้ที่เกิดจากความคิดโดยสรุปของบุคคลที่มีต่อวัตถุหรือปรากฏการณ์หลังจาก มีประสบการณ์ตรงกับสิ่งนั้น ด้วยการนำข้อเท็จจริงมาผสมผสานกัน (3) หลักการเป็นความรู้ที่ผสมผสานมโนคติตั้งแต่ 2 มโนคติเข้าด้วยกันและสามารถใช้ เป็นหลักในการอ้างอิงได้ เช่น หลักการที่ว่า “แม่เหล็กขั้วเดียวกันจะผลักกัน ขั้วต่างกันจะดูดกัน” มาจากมโนคติที่ว่า แม่เหล็กขั้วบวกจะผลักกับแม่เหล็กขั้วบวก และ มโนคติที่ว่า แม่เหล็กขั้วบวกจะ ดูดกับแม่เหล็กขั้วลบ เป็นต้น (4) สมมติฐาน เป็นความรู้ที่เกิดจากการคาดคะเนคำตอบของปัญหาที่กำลังศึกษาอยู่ โดยอาศัยความรู้เดิมเป็นพื้นฐานในการคาดคะเน เช่น “โลกและดวงจันทร์กำเนิดมาพร้อม ๆ กัน” (5) ทฤษฎี เป็นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ประเภทหนึ่งที่มีลักษณะเป็นข้อความใช้ อธิบายหลักการ กฎ หรือปรากฏการณ์ธรรมชาติ ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วไป ในการแสวงหาความจริงนั้นนักวิทยาศาสตร์ใช้การสังเกต การสรุปรวบรวมข้อมูล การคาดคะเน ซึ่งทำให้เกิดความรู้ทางวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ ตั้งแต่ข้อเท็จจริง มโนคติ หลักการ สมมติฐาน และกฎ แต่การจะรู้เพียงแต่ว่า ข้อเท็จจริงหรือหลักการเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็น บทที่ 2 ส ร ร พ ศ า ส ต ร์ ใ น ท า ง โ ล ก DOU 35
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More