ข้อความต้นฉบับในหน้า
บทที่ 5
มนุษยศาสตร์ในพระไตรปิฎก
คำสอนในพระไตรปิฎกเน้นเรื่องมนุษยศาสตร์เป็นหลัก เพราะจากที่กล่าวในบทที่ 4 นั้น
จะเห็นว่า โดยสรุปแล้วคำสอนทั้งหมดของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามี 3 ประการ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
เรียกว่า ไตรสิกขา อันเป็นหลักการดำเนินชีวิตในวัฏสงสารของมนุษย์ โดยมีเป้าหมายสูงสุด คือ
พระนิพพาน วิชาต่าง ๆ ของ DOU ที่นักศึกษาได้เรียนกันมาแล้วนั้น ก็มุ่งทิศทางไปในเรื่อง
มนุษยศาสตร์ทั้งสิ้น สำหรับมนุษยศาสตร์ในพระไตรปิฎกที่จะกล่าวถึงในที่นี้จะกล่าวในประเด็น
ที่สำคัญๆ ดังนี้
5.1 ภาพรวมมนุษยศาสตร์ในพระไตรปิฏก
เนื้อหาในบทนี้มีอยู่ 8 ประเด็นด้วยกัน ประเด็นแรก คือ ประวัติศาสตร์โลกและมนุษย
ชาติ จะกล่าวถึงภาพรวมความเป็นมาของโลกและมนุษย์ โดยอ้างอิงข้อมูลจากอัคคัญญสูตร
และจักกวัตติสูตร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเจริญและความเสื่อม ตั้งแต่ยุคแรกที่โลกและมนุษย์
มีความเจริญสูงสุดแล้วค่อย ๆ เสื่อมลงเรื่อยๆ ไปจนถึงจุดต่ำสุด จากนั้นโลกและมนุษย์ก็จะค่อย ๆ
เจริญกลับขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่งจนถึงจุดสูงสุด แล้วจะค่อย ๆ เสื่อมลงอีก เป็นวัฏจักรหมุนเวียนอยู่
อย่างนี้มาอย่างยาวนานแล้ว สาเหตุแห่งความเสื่อมเกิดจากมนุษย์ประพฤติอกุศลธรรม ส่วน
ความเจริญเป็นผลมาจากมนุษย์ละเว้นอกุศลธรรม ประพฤติเฉพาะกุศลธรรม เมื่อนักศึกษาได้
ทราบภาพรวมความเป็นมาของโลกและมนุษย์ดังกล่าวนี้อย่างดีแล้วจะส่งผลให้มีความเข้าใจเรื่อง
มนุษยศาสตร์และสรรพศาสตร์ในพระไตรปิฎกได้ง่ายขึ้น
ส่วน 7 ประเด็นที่เหลือจะกล่าวถึงตัวมนุษย์ว่าประกอบขึ้นจาก 2 ส่วน คือ ร่างกาย
กับจิตใจ โดยจิตใจมีความสำคัญในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาให้ร่างกายทำสิ่งต่าง ๆ ปกติจิตใจ
ของมนุษย์จะประภัสสร คือ สว่างไสว แต่เพราะมีกิเลสมาบดบังแสงสว่างของจิตใจ จึงทำให้
จิตใจเศร้าหมอง มองโลกผิดไปจากความเป็นจริง ทำให้มีโอกาสคิดผิดพูดผิดและทำผิด เกิด
เป็นวิบาก คือ บาปขึ้นในใจ และบาปนี้ก็จะรอเวลาส่งผลให้มนุษย์ผู้นั้นได้รับความทุกข์ทรมาน
ต่าง ๆ วิธีการแก้ไขให้จิตใจสว่างไสว คือ สร้างบุญหรือกุศลธรรมมากๆ บุญนี้จะชำระล้างกิเลส
และบาปในใจให้เบาบางลงจนหมดไปในที่สุด
82 DOU สรรพ ศ า ส ต ร์ ในพระไตรปิฎก