ข้อความต้นฉบับในหน้า
4.3) ความแตกต่างเป็นตัวกระตุ้นกิเลสจึงเป็นเหตุให้มนุษย์ทำอกุศลธรรม
จากเนื้อเรื่องจะเห็นว่า เมื่อสัตว์เริ่มมีผิวพรรณต่างกัน คนมีผิวพรรณงามก็จะดูหมิ่น
คนมีผิวพรรณไม่งามบ้าง หรือเมื่อเพศชายและเพศหญิง เกิดขึ้นก็มีการเพ่งดูกัน จึงเป็นเหตุให้
เสพเมถุนธรรมกันบ้าง และเป็นเหตุให้มีการประพฤติผิดในกาม คือ ล่วงละเมิดลูกเมียของ
ผู้อื่นบ้าง
4.4) ความผิดพลาดทางการปกครองเป็นเหตุให้มนุษย์ทำอกุศลธรรม
จากจักกวัตติสูตรจะเห็นว่าในยุคของพระเจ้าจักรพรรดิพระองค์ที่ 1-7 ทรงยึดมั่นใน
ธรรม คือ จักรวรรดิวัตร เป็นเหตุให้บ้านเมืองสงบสุขและเจริญรุ่งเรือง แต่เมื่อถึงยุคของพระโอรส
ของพระเจ้าจักรพรรดิพระองค์ที่ 7 ช่วงแรกพระองค์ไม่ได้ประพฤติตามจักรวรรดิวัตร ปกครอง
ประชาราษฎร์ตามมติของพระองค์เอง จึงทำให้บ้านเมืองไม่เจริญ ข้าราชการจึงถวายคำแนะนำ
ให้พระองค์ประพฤติจักรวรรดิวัตร พระองค์ก็ทรงปฏิบัติตาม แต่ว่าไม่ได้แก้ปัญหาเรื่อง
เศรษฐกิจโดยพระราชทานทรัพย์ให้แก่คนไม่มีทรัพย์ให้เขามีทุนในการประกอบอาชีพ เป็นเหตุ
ให้ความขัดสนแพร่หลาย เมื่อคนขัดสนไม่มีกินจึงผลักดันให้เขาจำเป็นต้องทำอกุศลธรรมด้วย
การลักขโมย
4.5) ความยากจนผลักดันให้มนุษย์ทำอกุศลธรรม
นอกจากกิเลสในตัวซึ่งเป็นเหตุสำคัญที่กระตุ้นให้มนุษย์ทำอกุศลธรรมแล้ว จะเห็นว่า
ความยากจนหรือความขัดสนทรัพย์นั้นก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งด้วย เพราะเมื่อยากจนไม่มีอะไรจะ
เลี้ยงชีพ ก็ต้องดิ้นรนแสวงหาปัจจัย 4 มาหล่อเลี้ยงร่างกายให้ดำรงอยู่ได้ เมื่อไม่ได้มาโดยชอบ
ธรรมก็ต้องหามาโดยไม่ชอบธรรม คือ การลักขโมย เป็นต้น
สำหรับกุศลธรรมที่มนุษย์ประพฤติแล้วเป็นเหตุให้โลกและมวลมนุษยชาติเจริญนั้นมี
หลายประการ เช่น ศีล 5, กุศลกรรมบถ 10, จักรวรรดิวัตร เป็นต้น เมื่อมนุษย์ยึดมั่นในกุศล
ธรรมเหล่านี้ ก็จะเป็นต้นแบบที่ดีให้คนอื่นทำตาม และเมื่อมีการชักชวนกันปฏิบัติอย่างแพร่หลาย
ก็จะเป็นเหตุให้อายุขัย วรรณะ ของมนุษย์เจริญขึ้น เป็นเหตุให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น อาหารประณีต
ขึ้น ทำให้โลกเจริญขึ้นตามลำดับ
บทที่ 5 ม นุ ษ ย ศ า ส ต ร์ ในพระไตรปิฎก DOU 91