การปกครองตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนา GB 406 สรรพศาสตร์ในพระไตรปิฏก หน้า 138
หน้าที่ 138 / 373

สรุปเนื้อหา

เนื้อหานี้สำรวจการนำหลักธรรมคือตัวอย่างอปริหานิยธรรมและทศพิธราชธรรมมาใช้ในการปกครองและการบริหารคณะสงฆ์ตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนไว้ การบริหารจัดการคณะสงฆ์เกิดขึ้นใหม่ในพระพุทธศาสนาแต่ต้องมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยพระองค์ไม่แต่งตั้งศาสดาแทน แต่ใช้หลักธรรมในการกำหนดการปกครองเพื่อความเหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ อย่างไรก็ตามในทางโลก พระองค์สอนให้กษัตริย์บริหารจัดการด้วยหลักธรรม ไม่เข้าไปกำหนดกฎระเบียบโดยตรงเพื่อให้เป็นเอกภาพในทางการเมือง

หัวข้อประเด็น

-หลักธรรมในการปกครอง
-บทบาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
-การบริหารจัดการคณะสงฆ์
-ธรรมาธิปไตย
-อปริหานิยธรรมในพระพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

อปริหานิยธรรม ทศพิธราชธรรม และจักรวรรดิวัตร ฯลฯ ก็สามารถประยุกต์ใช้ในการปกครองได้ ทุกระบอบ นอกจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะสอนหลักธรรมสำหรับการปกครองแล้ว พระองค์ยัง ทรงสอนให้กษัตริย์และผู้ปกครองแคว้นต่างๆ บรรลุธรรมด้วย เช่น พระองค์เสด็จไปโปรด พระเจ้าพิมพิสารแห่งแคว้นมคธ ในครั้งนั้นพระเจ้าพิมพิสารและประชาชน 110,000 คน ได้ บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน เมื่อพระราชาเป็นพระโสดาบันแล้ว จึงทำให้มีศรัทธามั่นคงใน พระรัตนตรัย มีใจตั้งมั่นในธรรม เป็นเหตุให้ปกครองประชาราษฎร์โดยธรรมไปโดยปริยาย สำหรับการปกครองของคณะสงฆ์ในพระพุทธศาสนานั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ ไม่เคย มีมาก่อน แต่ถึงกระนั้น ในสมัยพุทธกาลระบอบที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงใช้ปกครองพุทธ บริษัทก็คล้ายๆ กับทางโลก โดยฐานะทางการปกครองของพระพุทธองค์ คือ “ธรรมราชา” คล้ายๆ กับการเป็นกษัตริย์ผู้ทรงธรรมในทางโลก ก่อนพระองค์จะปรินิพพานก็ไม่ได้แต่งตั้งภิกษุรูปใดเป็นศาสดาแทน แต่ทรงใช้หลัก การธรรมาธิปไตยในการปกครองคณะสงฆ์ โดยมอบอำนาจให้คณะสงฆ์ในแต่ละพื้นที่ แต่ละ วัดทุกรูปปกครองบริหารการคณะสงฆ์ในพื้นที่นั้น ๆ ร่วมกัน โดยยึด “พระธรรมวินัย” ที่ พระองค์ตรัสไว้ดีแล้วเป็นศาสดาแทนพระองค์ และที่สำคัญพระองค์ได้ตรัสถึงหลัก “อปริหานิย ธรรม” ให้พระภิกษุและภิกษุณีปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ซึ่งหลักนี้พระองค์เคยสอนให้เจ้าลิจฉวีใช้ ปกครองแคว้นวัชชีมาก่อน แต่มีความแตกต่างกันบางข้อ ทั้งนี้เพื่อให้เหมาะสมกับเพศภาวะ ของบรรพชิต การปกครองคณะสงฆ์ในพระพุทธศาสนานั้นแตกต่างกับทางโลกตรงที่พระพุทธองค์ ทรงกำหนดกฎระเบียบสำหรับพระภิกษุและภิกษุณีอย่างเคร่งครัด ดังที่ปรากฏในพระวินัยปิฎก ซึ่งจะกล่าวรายละเอียดในบทนิติศาสตร์ในพระไตรปิฎกต่อไป ส่วนทางโลกพระองค์เพียงตรัส สอนหลักธรรมให้บรรดากษัตริย์และผู้ปกครองแคว้นต่างๆ นำไปประยุกต์ใช้กันเอง พระองค์ ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับกฎระเบียบ และกระบวนการปกครองภายในรัฐแต่อย่างใด ทั้งนี้อาจ เป็นเพราะสิ่งเหล่านี้มีมาแต่เดิมแล้ว เพียงแต่บางรัฐบางแคว้นหรือโดยส่วนใหญ่ยังขาด “หลัก ธรรม” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญสำหรับเป็นเครื่องนำทางการปกครองเท่านั้น ส่วนคณะสงฆ์ในพระพุทธศาสนานั้นเกิดขึ้นใหม่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงต้องวาง ระบบระเบียบต่างๆ ให้ชัดเจน จะอาศัยเพียงหลักธรรม เช่น อปริหานิยธรรม เป็นต้น ซึ่งเป็น หลักการกว้าง ๆ นั้นไม่พอ เพราะผู้เข้ามาบวชมีอุปนิสัยและการอบรมหล่อหลอมต่างกัน หาก บทที่ 6 รัฐ ศ า ส ต ร์ ในพระไตรปิฎก DOU 127
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More