ข้อความต้นฉบับในหน้า
เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมชนิดต่าง ๆ แล้วพบว่า ไม่ใช่เฉพาะลิงเท่านั้นที่มีจีโนมใกล้เคียงกับมนุษย์ แต่
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมจำนวนมากหรือเกือบทั้งหมดทีเดียวที่มีจีโนมใกล้เคียงกับมนุษย์แม้แต่หนู
แมว สุนัข เป็นต้น สัตว์เหล่านี้มี 4 ขา แต่มนุษย์มีเพียง 2 ขา และรูปร่างหน้าตาโดยรวมก็ต่าง
กันมาก แต่ทำไมจีโนมกลับคล้ายคลึงกัน จนสามารถศึกษาปัจจัยการเกิดโรคในสัตว์เหล่านี้แล้ว
นำมาใช้กับการรักษาโรคในมนุษย์ได้ คำถามนี้นักวิทยาศาสตร์เองก็ยังตอบไม่ได้ แต่คำตอบมี
กล่าวไว้ในพระไตรปิฎกกว่า 2,500 ปีแล้วว่า จริงๆ แล้วสัตว์เหล่านี้แต่เดิมเป็นมนุษย์แต่เพราะ
ไม่รักษามนุษยธรรมคือศีล 5 จึงทำให้ร่างกายเสื่อมถอยลงจนต้องไปเกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉานใน
ภพชาติต่อไป
สำหรับประเด็น “การผ่าเหล่า” หรือ การแปรผัน (Mutation) ของบรรดาลูกหลาน
ของมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งทำให้รูปร่างและพฤติกรรมแตกต่างไปจากบรรพบุรุษนั้น ทฤษฎี
วิวัฒนาการไม่อาจจะให้คำตอบได้ว่า ทำไมการผ่าเหล่าจึงเกิดขึ้น แต่ในทางพระพุทธศาสนานั้นมี
คำตอบในเรื่องนี้ว่า เกิดจากวิบากกรรมหรือเป็นไปตามกฎกรรมนิยาม พ่อแม่ที่มีรูปร่าง
สมบูรณ์อาจจะมีลูกที่พิการได้หากลูกเคยทำบาปกรรมไว้หรือนักศึกษาอาจจะเคยได้ยินข่าวที่ว่า
บางกรณีพ่อและแม่เป็นหมอทั้งคู่แต่ลูกที่คลอดออกมากลับปัญญาอ่อน อันนี้ก็เป็นผลจาก
แต่ลูกที่คลอดออกมา
บาปกรรมที่ลูกเคยทำไว้เช่นกัน ในทางตรงข้ามพ่อแม่ที่มีร่างกายพิการ
ไม่จำเป็นต้อง พิการเหมือนกับพ่อแม่หากไม่ได้ทำบาปกรรมเอาไว้
จริง ๆ แล้วคำสอนในพระไตรปิฎกไม่ขัดแย้งกับทฤษฎีวิวัฒนาการที่ว่าสิ่งมีชีวิตมีวิ
วัฒนาการ มีการผ่าเหล่า แต่แตกต่างในการมองกรอบใหญ่ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพบ
ว่า สัตว์คืออดีตมนุษย์ ไม่ใช่มนุษย์วิวัฒนาการมาจากสัตว์ แต่ในประเด็นที่ว่า สัตว์โลกมีการ
เปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมนั้นบางอย่างสอดคล้องกัน ชาร์ลส์ ดาร์วิน ค้นพบว่า สัตว์ต่าง ๆ ที่
ดำรงอยู่ในยุคก่อนๆ ต่อมาเมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป สัตว์เหล่านั้นก็ต้องปรับตัวตามเพื่อ
ความอยู่รอด สัตว์ชนิดไหนที่ปรับตัวไม่ได้ก็ต้องสูญพันธ์ไป เช่น ไดโนเสาร์ เป็นต้น ในปัจจุบัน
มีแต่ตะกวดและกิ้งก่า ซึ่งมีรูปลักษณ์คล้ายไดโนเสาร์แต่ตัวเล็กกว่ามาก
ในพระไตรปิฎกมีการบันทึกไว้ว่า ในยุคก่อน ๆ นั้นมนุษย์ตัวสูงใหญ่ ยุคต่อมาความสูง
ของมนุษย์ก็ค่อยๆ ลดลงเรื่อย ๆ ดังที่ปรากฏในพุทธวงศ์เรื่องความสูงของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
คือ พระวิปัสสีพุทธเจ้ามีพระสรีระสูง 80 ศอก, พระสิขีพุทธเจ้ามีพระสรีระสูง 70 ศอก
พระเวสสภูพุทธเจ้ามีพระสรีระสูง 60 ศอก, พระกกุสันธพุทธเจ้ามีพระสรีระสูง 40 ศอก
พระโกนาคมนพุทธเจ้ามีพระสรีระสูง 30 ศอก, พระกัสสปพุทธเจ้ามีพระสรีระสูง 20 ศอก และ
พระสมณโคดมพุทธเจ้ามีพระสรีระสูง 16 ศอก เป็นต้น
บทที่ 1 0 วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ ในพระไตรปิฎก DOU 291