ข้อความต้นฉบับในหน้า
โดยสารพิษที่ระเหยได้ง่ายจะระเหยออกทางลมหายใจ เช่น เมื่อดื่มสุรา ร่างกายจะขจัด
แอลกอฮอล์บางส่วนโดยขับออกทางลมหายใจ
4.2) การขับพิษทางเหงื่อ การทำให้เหงื่อออกเป็นอีกช่องทางหนึ่งของการขับพิษ ซึ่ง
อาจจะใช้วิธีออกกำลังกาย ทำงาน หรือ อบตัวในห้องอบซาวน่า เป็นต้น เมื่อเหงื่อออกพิษใน
ร่างกายก็จะถูกขับออกมาด้วย
ซาวน่า (Sauna) แปลว่า “การอบไอน้ำ” เป็นวิธีล้างพิษที่นิยมกันมากในปัจจุบัน ซึ่ง
เป็นวิธีชักนำให้ร่างกายขับเหงื่อโดยใช้ความร้อน ตามด้วยการอาบน้ำหรือแช่ร่างกายด้วยน้ำ
เย็น การทำซาวน่าจะช่วยล้างพิษที่อยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของร่างกายได้อย่างสะอาด
4.3) การขับพิษทางปัสสาวะ จะใช้กระบวนการทำงานของไต ซึ่งไตจะเป็นผู้ทำหน้าที่
กลั่นกรองเอาของเสียออกจากกระแสโลหิต และขับออกมาด้วยน้ำปัสสาวะ
4.4) การขับพิษทางอุจจาระ จะใช้กระบวนการทำงานของตับซึ่งตับทำหน้าที่เป็น
โรงงานใหญ่ของร่างกายเพื่อขจัดสารพิษ กล่าวคือ เมื่อเลือดพาสารพิษเข้าสู่ตับ ตับจะทำหน้าที่
ขับสารพิษออกไปกับน้ำดีไหลไปสู่ลำไส้ใหญ่แล้วจะออกมากับอุจจาระ
การขับพิษทางอุจจาระที่นิยมทำกันมากในปัจจุบันคือ “การสวนทวาร” ซึ่งจะใช้น้ำ
กาแฟสวนเข้าไปในทวารด้วยท่อสายยางเล็ก ๆ เพื่อกระตุ้นให้ขับถ่ายเอาสารพิษออกมา
การสวนทวารเป็นวิธีการหนึ่งของการทำดีท็อกซ์ (Detox) หรือ การขับพิษซึ่งทำได้อีก
หลายวิธี เช่น อบซาวน่า การกินอาหารให้น้อยลง การกินอาหารมีกากใย การอดอาหาร หรือ
การกินอาหารเพียงชนิดเดียวในหนึ่งวัน เช่น กินฝรั่งอย่างเดียว กินผักบุ้งอย่างเดียว เป็นต้น
ดีท็อกซ์ (Detox) มาจากคำเต็มว่า ดีท็อกซิฟิเคชั่น (Detoxification) หมายถึง การกำจัด
“ท็อกซิน” หรือพิษออกจากร่างกาย เพราะการที่เรารับประทานอาหารไม่ถูกหลักอนามัยเป็น
ระยะเวลานานๆ จะทำให้สารพิษสะสมอยู่ในร่างกายจึงจำเป็นต้องขับออก
เปรียบเทียบการขับพิษในสมัยพุทธกาลกับยุคปัจจุบัน
จะเห็นว่า วิธีการขับพิษของการแพทย์ยุคปัจจุบันที่กล่าวมานั้น เป็นวิธีที่มีมาตั้งแต่
สมัยพุทธกาลแล้ว เช่น การขับพิษทางเหงื่อด้วยการออกกำลังกาย พระภิกษุสมัยพุทธกาลก็ใช้
วิธีนี้เช่นกัน แต่สมัยนั้นพระภิกษุออกกำลังกายด้วยการเดินจงกรม บิณฑบาต หรือ กวาดวัด
www.thai4health.com (2551). “Detox (ดีท็อกซ์) คืออะไร.” [ออนไลน์].
บทที่ 1 1 แ พ ท ย ศ า ส ต ร์ ในพระไตรปิฎก DOU 347