ข้อความต้นฉบับในหน้า
บทที่ 10
วิทยาศาสตร์ในพระไตรปิฎก
10.1 ภาพรวมวิทยาศาสตร์ในพระไตรปิฎก
วิทยาศาสตร์ในพระไตรปิฎกในที่นี้จะกล่าวถึงประเด็นที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกซึ่ง
เกี่ยวข้องหรือสอดคล้องกับวิทยาศาสตร์ ได้แก่ เจตคติต่อความรู้, ลักษณะของความรู้, วิธีการ
แสวงหาความรู้, สมาธิกับการค้นพบของนักวิทยาศาสตร์, นิยาม 5 กฎแห่งสรรพสิ่งใน
อนันตจักรวาล และการพิสูจน์คำสอนในพระไตรปิฎก
แต่ทั้งนี้ไม่ได้ต้องการให้นักศึกษาเข้าใจว่า พุทธศาสตร์อันเป็นพระธรรมคำสอนของ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกเป็นวิทยาศาสตร์ เพราะว่าพุทธศาสตร์ก็ยัง
คงเป็นพุทธศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ก็ยังคงเป็นวิทยาศาสตร์
พุทธศาสตร์นั้นมีความแตกต่างกับวิทยาศาสตร์ในประเด็นที่สำคัญ คือ ความรู้ของ
พุทธศาสตร์เป็นความรู้แจ้งด้วยพระปัญญาตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นความรู้ที่
เกิดขึ้นจากภาวนามยปัญญา เป็นสัจธรรมที่เที่ยงแท้แน่นอนไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีกต่อไป
ส่วนความรู้ของวิทยาศาสตร์ไม่ได้เป็นความรู้แจ้งแต่เป็นความรู้ที่เกิดจากสุตมยปัญญา
และ จินตมยปัญญาเป็นหลักเกิดจากการลองผิดลองถูกจนคิดว่าได้ค้นพบความจริงในธรรมชาติ
บางประการ แล้วตั้งเป็นกฎหรือทฤษฎีขึ้นมา ซึ่งมีบ่อยครั้งเมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษามากขึ้น
ไปกว่าเดิมก็จะพบว่า กฎหรือทฤษฎีบางอย่างไม่ถูกต้องจึงต้องยกเลิกไป
กฎบางกฎที่ใช้มายาวนานจนนักวิทยาศาสตร์เองก็คิดว่าเป็นสัจธรรมไม่มีการ
เปลี่ยนแปลงแล้ว ได้รับการพิสูจน์มานับครั้งไม่ถ้วนแล้วว่าถูกต้อง ก็ยังอาจจะพลาดได้ เหมือน
ดังอุปมาที่ว่า ไก่ตัวหนึ่งเช้าขึ้นมาก็เห็นนาย ก.มา นาย ก.มาทีไร ก็เอาอาหารมาให้กินทุกที
เห็นอย่างนี้มาทุกเช้าๆ ก็เป็นอันว่า พอไก่เห็นนาย ก. เป็นได้กิน ไก่เห็นนาย ก.เป็นได้กิน ไก่
เห็นนาย ก.เป็นได้กินทุกวัน ๆ เป็นปีๆ แต่มาถึงเช้าวันหนึ่ง ไก่เห็นนาย ก.มา แต่ไม่ได้กิน
เพราะนาย ก.ไม่ได้ถืออาหารมา และกลายเป็นว่า นาย ก.ถือมีดมาแล้วก็เฉือนไก่ลงหม้อแกง
เพราะฉะนั้น ที่ว่า “ไก่เห็นนาย ก.แล้วได้กิน” ก็กลายเป็นว่า “ไก่เห็นนาย ก.เลยลงหม้อแกง”
278 DOU สรรพ ศ า ส ต ร์ ในพระไตรปิฎก