ยุคแห่งความเสื่อมในประวัติศาสตร์ GB 406 สรรพศาสตร์ในพระไตรปิฏก หน้า 99
หน้าที่ 99 / 373

สรุปเนื้อหา

เรื่องราวเกี่ยวกับการมอบราชสมบัติให้พระราชโอรสและการปรับปรุงการปกครองในสมัยพระราชาองค์ที่ 8 เมื่อการปกครองไม่เป็นไปตามจักรวรรดิวัตรทำให้เกิดความเสื่อมโทรมทางศีลธรรมและปัญหาการลักขโมยและความขัดสนอย่างแพร่หลาย การลงโทษผู้ลักขโมยและปัญหาสังคมยุคนี้มีผลกระทบร้ายแรงต่ออายุขัยและคุณธรรมของมนุษย์

หัวข้อประเด็น

-การมอบราชสมบัติ
-ความเสื่อมทางศีลธรรม
-จักรวรรดิวัตร
-ปัญหาการลักขโมย
-อายุมนุษย์และคุณธรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ย่างเข้าสู่วัยชราจึงมอบราชสมบัติให้แก่พระราชโอรสองค์ใหญ่ ส่วนพระองค์ก็ออกบวชเป็น บรรพชิต เมื่อพระราชาผนวชได้ 7 วัน จักรแก้วก็ได้อันตรธานไป ความเสื่อมในยุคพระราชาพระองค์ที่ 8 เมื่อจักรแก้วได้อันตรธานไปแล้ว พระราชาองค์ที่ 8 ทรงเสียพระทัย แต่ไม่ได้เสด็จเข้าไป หาพระราชฤาษีทูลถามถึงจักรวรรดิวัตร ท้าวเธอทรงปกครองประชาราษฎร์ตามมติของ พระองค์เอง ประชาราษฎร์จึงไม่เจริญเหมือนเมื่อครั้งที่กษัตริย์พระองค์ก่อนๆ ซึ่งได้ทรงประพฤติ จักรวรรดิวัตรและปกครองบ้านเมืองอยู่ เหล่าข้าราชการจึงกราบทูลพระราชาว่า พวกข้าพระองค์จดจำจักรวรรดิวัตรได้ และ ได้กราบทูลให้พระราชาทราบว่าจักรวรรดิวัตรมีอะไรบ้าง ตั้งแต่นั้นพระราชาจึงปกครอง ประชาราษฎร์โดยธรรม แต่พระองค์ไม่ได้พระราชทานทรัพย์แก่คนที่ไม่มีทรัพย์ ด้วยเหตุนี้ ความขัดสนจึงแพร่หลาย จึงมีการลักขโมยเกิดขึ้น ราชบุรุษจับได้จึงนำมาไต่สวนพบสาเหตุว่า ขโมยเพราะไม่มีทรัพย์ พระราชาจึงพระราชทานทรัพย์ให้ ต่อมามีคนลักขโมยของผู้อื่นมากขึ้น และถูกจับได้อีก พระราชาก็ทรงพระราชทานทรัพย์ให้อีก ข่าวลือกันไปว่าถ้าใครลักทรัพย์พระราชาก็จะพระราชทานทรัพย์ให้ คนจึงปรารถนา จะลักทรัพย์กันมากขึ้น เมื่อพระราชาทรงทราบจึงดำริว่า หากพระองค์พระราชทานทรัพย์แก่ พวกลักขโมยต่อไป พวกคนที่ลักขโมยจะมีมากขึ้น ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงส่งราชบุรุษไปจับมัดตัว พวกคนที่ขโมยเหล่านั้น ให้โกนศีรษะ พาตระเวนไปตามถนนและตรอก พร้อมตีกลอง แล้วนำ เขาไปประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ เมื่อประชาชนทราบข่าวนั้น จึงพากันสร้างอาวุธขึ้นคิดว่า เมื่อลักขโมยทรัพย์แล้วก็จะตัดศีรษะเจ้าของทรัพย์บ้าง ด้วยเหตุนี้จึงเกิดการปล้นบ้าน นิคม- พระนคร ขึ้นอย่างแพร่หลาย พวกโจรพากันจับเจ้าของทรัพย์ที่ขัดขืนตัดศีรษะเสียจำนวนมาก อายุมนุษย์ลดลงเพราะไม่ตั้งอยู่ในศีลธรรม เมื่อพระมหากษัตริย์ไม่พระราชทานทรัพย์ให้แก่คนที่ไม่มีทรัพย์ความขัดสนก็แพร่หลาย การลักขโมยทรัพย์จึงแพร่หลาย การใช้อาวุธจึงแพร่หลาย การฆ่าจึงแพร่หลาย อายุและผิวพรรณ วรรณะของมนุษย์ก็เริ่มเสื่อมลง จากเดิมมนุษย์ยุคนั้นมีอายุ 8 หมื่นปี บุตรจะมีอายุเพียง 4 หมื่นปี และลดลงเรื่อย ๆ ต่อมาการพูดเท็จแพร่หลาย บุตรของมนุษย์ที่มีอายุขัย 4 หมื่นปีก็มีอ หมื่นปีก็มีอายุเพียง 2 หมื่นปี ต่อมาการพูดส่อเสียดก็แพร่หลาย บุตรของมนุษย์ที่มีอายุขัย 2 หมื่นปีก็มีอายุเพียง 1 หมื่นปี ต่อมาการประพฤติผิดในกามก็แพร่หลาย บุตรของมนุษย์ที่มีอายุขัย 1 หมื่นปีก็ มีอายุเพียง 5,000 ปี ต่อมาการพูดคำหยาบและพูดเพ้อเจ้อก็แพร่หลาย บุตรของมนุษย์ที่มี 88 DOU สรรพ ศ า ส ต ร์ ในพระไตรปิฎก
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More