ข้อความต้นฉบับในหน้า
ถ้าหาก 1 ศอกมีความยาวประมาณ 50 เซนติเมตร เพราะฉะนั้นพระวิปัสสีพุทธเจ้า
ซึ่งมีพระสรีระสูง 80 ศอก ก็จะสูงประมาณ 40 เมตรทีเดียว และมนุษย์ในยุคของพระองค์ก็มี
ความสูงประมาณนี้หรือน้อยกว่านี้ไม่มาก เมื่อเทียบกับมนุษย์ในปัจจุบันแล้วจึงไม่อาจจะเทียบ
กันได้ แม้แต่คนที่สูงที่สุดในโลกตามที่บันทึกไว้ในกินเนสส์บุ๊ก คือ นายลีโอนิด สตัดนิก ชาว
ยูเครน ก็มีความสูงเพียง 2.57 เมตรเท่านั้น
จะเห็นว่าความสูงของมนุษย์ลดลงมาเรื่อย ๆ รวมทั้งอายุก็ลดลงด้วยเช่นกัน สมัยพระ
วิปัสสีพุทธเจ้าคนมีอายุถึง 80,000 ปี แล้วค่อยๆ ลดลงมาเรื่อย ๆ จนถึงสมัยพระสมณโคดม-
พุทธเจ้าเหลือแค่ 100 ปี และในปัจจุบันอายุเฉลี่ยของมนุษย์เหลือแค่ 75 ปีเท่านั้น นอกจากนี้
สิ่งแวดล้อมก็เสื่อมลงด้วย อาหารเหลือน้อยลง คุณภาพอาหารก็ต่ำลง ป่าไม้ลดลง สัตว์ป่า
สูญพันธุ์ไปจำนวนมาก และปัจจุบันปัญหาโลกร้อนก็เป็นปัญหาที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกกำลัง
วิตกกันอยู่ ความเปลี่ยนแปลงของมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อมที่กล่าวมานี้ ถือว่าสอดคล้องกับ
ทฤษฎีวิวัฒนาการของชาร์ลส์ ดาร์วิน แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางเสื่อมลงไม่ใช่เจริญขึ้น
10.6.2 อุตุนิยามกับวิทยาศาสตร์
เรื่องอุตุนิยามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ในพระไตรปิฎก อันเกี่ยวกับเรื่องจักรวาล
โลกธาตุ และภพภูมิต่าง ๆ เป็นต้น มีกล่าวไว้แล้วในวิชาต่าง ๆ โดยเฉพาะวิชาจักรวาลวิทยา
นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาบางส่วนอยู่ในวิชาสมาธิ 8 และ วิชากฎแห่งกรรม เป็นต้น สำหรับวิชานี้
จะไม่กล่าวในรายละเอียดถึงเรื่องนี้อีก แต่จะนำความรู้จากที่นักศึกษาได้เรียนผ่านมาแล้วนั้น
มาเปรียบเทียบกับวิทยาศาสตร์ดังนี้
1) เปรียบเทียบโลกธาตุกับเอกภพ
จากที่กล่าวถึงเรื่องเอกภพในทางวิทยาศาสตร์นั้น จะเห็นได้ว่ามีลักษณะหลายประการ
ที่สอดคล้องกันกับโลกธาตุในพระไตรปิฎก เพราะโลกธาตุหมายถึง “กลุ่มของจักรวาล”
ประกอบด้วยจักรวาลหลาย ๆ จักรวาลรวมตัวกันเป็นกลุ่มๆ หากมี 1,000 จักรวาล ก็เป็น
โลกธาตุขนาดเล็ก หากมี 1 ล้านจักรวาล ก็เป็นโลกธาตุขนาดกลาง และถ้าเป็น 1 ล้านล้าน
จักรวาล ก็เป็นโลกธาตุขนาดใหญ่
ส่วนเอกภพนั้นก็เป็นที่รวมตัวกันของบรรดากาแล็กซี่ต่าง ๆ เรียกว่า กระจุกกาแล็กซี
(Cluster of galaxies) ซึ่งกระจุกกาแล็กซี่นั้นก็มีมากมายและยังรวมกลุ่มกันเป็น ซูเปอร์คลัส-
1 จูฬนีสูตร, อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต, มก. เล่ม 34 ข้อ 520 หน้า 431-433.
292 DOU สรรพ ศ า ส ต ร์ ในพระไตรปิฎก