ข้อความต้นฉบับในหน้า
1.6) วิธีการขับพิษในสมัยพุทธกาล
วิธีการขับพิษออกจากร่างกายในสมัยพุทธกาลตามที่บันทึกไว้ในพระไตรปิฎกนั้นมี 3 วิธี
คือ การขับพิษด้วยการขับถ่าย การขับพิษด้วยการเดินจงกรม และการขับพิษด้วยการอบ
ร่างกายในเรือนไฟ ในแต่ละวิธีการมีความเป็นมาและรายละเอียดดังนี้
1.6.1) การขับพิษด้วยการขับถ่าย
ครั้งหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกับพระอานนท์ว่า กายของตถาคตหมักหมมไปด้วย
โทษ ตถาคตต้องการจะฉันยาถ่าย พระอานนท์จึงแจ้งเรื่องนั้นแก่หมอชีวกโกมารภัจจ์ ๆ คิดว่า
การที่เราจะพึงทูลถวายพระโอสถถ่ายที่หยาบแด่พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ไม่สมควรเลย เราควร
อบก้านอุบล 3 ก้านด้วยยาต่าง ๆ แล้วทูลถวายพระตถาคต
ท่านจึงอบก้านอุบล 3 ก้านด้วยยาต่าง ๆ แล้วนำไปถวายพระผู้มีพระภาคเจ้า พร้อม
ทั้งกราบทูลว่า เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสูดก้านอุบล 1 ก้าน จะทำให้พระองค์ถ่ายถึง 10 ครั้ง
เมื่อทรงสูดก้านอุบลครบทั้ง 3 ก้าน ก็จะทรงถ่ายถึง 30 ครั้ง
เมื่อท่านถวายพระโอสถถ่ายแด่พระผู้มีพระภาคเสร็จแล้ว ขณะเดินกลับไปถึงนอกซุ้ม
ประตูท่านนึกขึ้นได้ว่า พระกายของพระตถาคตหมักหมมไปด้วยโทษ จะทรงถ่ายไม่ครบ 30
ครั้ง แต่เมื่อทรงถ่ายครั้งที่ 29 แล้ว ได้สรงพระกาย ก็จะทรงถ่ายอีกครั้งหนึ่งจึงจะครบ 30 ครั้ง
พระผู้มีพระภาคทรงทราบความคิดนั้นของชีวกโกมารภัจจ์ พระองค์จึงทรงปฏิบัติตาม
นั้น จึงถ่ายครบ 30 ครั้ง เมื่อทรงถ่ายครบแล้ว ชีวกโกมารภัจจ์ได้กราบทูลว่า ช่วงนี้พระผู้มี-
พระภาคเจ้าไม่ควรเสวยพระกระยาหารที่ปรุงด้วยน้ำต้มผักต่าง ๆ จนกว่าจะมีพระกายเป็นปกติ
ต่อมาไม่นานพระกายของพระผู้มีพระภาคเจ้าก็หายเป็นปกติ
1.6.2) การขับพิษด้วยการเดินจงกรม
สมัยนั้น ทายกทายิกาในพระนครเวสาลีเริ่มจัดปรุงอาหารประณีตขึ้นตามลำดับ ภิกษุ
ทั้งหลายฉันอาหารนั้นแล้ว มีโทษสั่งสมในร่างกายมาก จึงมีอาพาธมาก
หมอชีวกโกมารภัจจ์เห็นภิกษุมีอาพาธมาก จึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า กราบทูล
ว่า บัดนี้ ภิกษุทั้งหลาย มีโทษสั่งสมในร่างกายมาก ทำให้มีอาพาธมาก ขอพระผู้มีพระภาคเจ้า
ได้โปรดทรงอนุญาต “ที่จงกรม” และ “เรือนไฟ” เถิด เมื่อเป็นเช่นนี้ ภิกษุทั้งหลายจักมีอาพาธ
น้อย พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย “เราอนุญาตที่จงกรมและเรือนไฟ”
บ ท ที่ 1 1 แ พ ท ย ศ า ส ต ร์ ในพระไตรปิฎก DOU 337