ข้อความต้นฉบับในหน้า
ถ้าเราไม่ยอมรับอินทรีย์ที่ 6 เราจะขาดความรู้ต่อประสบการณ์ไปมากมาย เพราะ
ประสบการณ์พื้นฐานทั่วไปที่เกิดขึ้นในใจนั้นมีมาก เช่น ความรัก ความโกรธ ความกลัว ซึ่งไม่
อาจพิสูจน์ได้ด้วยอินทรีย์อื่น เวลาเรามีความรัก เราก็รู้แก่ใจของเราเอง อันนี้พิสูจน์ได้ง่ายเวลามี
ความกลัว มีความรู้สึกโกรธ มันก็รู้สึกได้โดยตรง ตลอดจนความสุขสบาย ความปลาบปลื้มอิ่มใจ
ผ่อนคลายใจ พิสูจน์ได้ทั้งนั้น แต่วงการวิทยาศาสตร์มักเข้าใจไปว่า สิ่งเหล่านี้เกิดจากสมองไม่
ได้เกิดจากใจ เมื่อไม่ยอมรับเรื่องใจก็เลยจะต้องหาทางพิสูจน์อารมณ์ต่าง ๆ ที่เกิดกับใจด้วยการ
ใช้เครื่องมือเครื่องวัดที่แสดงผลออกมาเป็นประสบการณ์ที่รับรู้ได้ด้วยอินทรีย์ทั้ง 5 เช่น เมื่อ
ต้องการจะรู้ความคิดในใจ ก็พยายามประดิษฐ์เครื่องวัดคลื่นสมอง ซึ่งไม่สามารถรับรู้ความคิด
ของใจที่แท้จริงได้ อย่างมากที่สุดก็บอกได้เพียงรูปแบบคลื่นสมองหลากชนิด ซึ่งให้ความเข้าใจ
ความคิดในใจอย่างพร่าเลือนเท่านั้น
การพยายามพิสูจน์ความคิดที่เกิดกับใจด้วยอินทรีย์ 5 ของนักวิทยาศาสตร์ ตรงกับที่
นักวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่งชื่อ เอดดิงตัน เคยบอกว่า “วิทยาศาสตร์ไม่สามารถนำมนุษย์เข้าถึง
ตัวความจริงหรือสัจจภาวะได้โดยตรง จะเข้าถึงได้ก็เพียงโลกแห่งสัญลักษณ์ที่เป็นเพียงเงา”
กล่าวคือเป็นเพียง “shadow” คือเงาของความจริง ไม่ใช่ตัวความจริง เป็นเครื่องแสดงว่า ความ
จริงทางวิทยาศาสตร์มีความบกพร่อง และวิธีการหาความจริงของวิทยาศาตร์ก็บกพร่อง เพราะ
ทำผิดหลักการพิสูจน์ความจริง คือ พิสูจน์ประสบการณ์ของอินทรีย์หนึ่งด้วยอินทรีย์อื่น ผิดอินทรีย์
กัน ถ้าอยู่ในลักษณะนี้ วิทยาศาสตร์ก็จะพิสูจน์เงาของความจริงเรื่อยไป
เหมือนกับว่าเราเรียนรู้ก้อนหินจากเสียง “ป๋อม” ในน้ำ หรือจากคลื่นที่เกิดในน้ำ
เพราะก้อนหินกระทบ พอนักวิทยาศาสตร์ได้ยินก็ไปวัดระยะและคำนวณกันว่าเมื่อ ได้ยินเสียง
“ป้อม” ครั้งนี้ เสียงขนาดนี้ ก้อนหินขนาดเท่านี้ ต่อไป “ป้อม” เสียงขนาดนั้น ก้อนหินก็ต้อง
ขนาดเท่านั้น ก็บอกด้วยสูตรคณิตศาสตร์ทำเป็นสมการคณิตศาสตร์ออกมา หรือไม่อย่างนั้นก็
ไปวัดเอาคลื่น ที่เกิดมาจากการตกลงน้ำของก้อนหิน เพื่อจะได้รู้ขนาดของมวลสาร
ในการเรียนรู้ความจริงของธรรมชาติของนักวิทยาศาสตร์มันเป็นอย่างนี้คือ เราไม่ได้
จับต้องเห็นก้อนหินตัวจริงสักที เพราะฉะนั้น อาจจะเป็นได้ว่า วิทยาศาสตร์อาจจะต้องมาทด
ลองการสังเกตในแบบอื่นดูบ้าง เช่นอย่างในทางพระพุทธศาสนาที่ถือว่า การสังเกตทดลอง
จากประสบการณ์ตรงในทางใจก็ถือว่า เป็นการสังเกตทดลองหาความจริงของกฎธรรมชาติ
เช่นเดียวกัน เป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ทางใจ ที่เมื่อปฏิบัติฝึกฝนไปตามที่พระสัมมาสัมพุทธ
เจ้าทรงแนะนำแล้ว ก็จะสามารถเข้าถึงและพิสูจน์ได้ด้วยตนเอง และมีผู้เข้าถึงพิสูจน์ได้ และ
310 DOU สรรพ ศ า ส ต ร์ ในพระไตรปิฎก