การประชุมระดมความคิดและความสำคัญของธรรมวินัยในพุทธศาสนา GB 406 สรรพศาสตร์ในพระไตรปิฏก หน้า 192
หน้าที่ 192 / 373

สรุปเนื้อหา

ในปัจจุบัน การประชุมระดมความคิดถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยพัฒนาองค์กรให้มีความก้าวหน้า โดยมาจากการรวมความคิดเห็นที่หลากหลาย ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดจากการคิดคนเดียว ข้อความนี้นำเสนอความเห็นเกี่ยวกับความสำคัญของธรรมวินัยในพุทธศาสนา โดยแบ่งปันกรณีศึกษาจากสาวกนิครณฐ์ ที่เกิดความแตกแยกหลังการสอนของเจ้าลัทธิ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการมีธรรมวินัยที่ชัดเจนจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์เป็นผู้ประกาศธรรมวินัยที่สมบูรณ์ การเข้าถึงความจริงภายในจึงต้องอิงกับคำสอนที่ถูกต้อง การไม่อนุญาตให้สาวกบัญญัติสิ่งใหม่ยังสะท้อนถึงความสำคัญของหลักธรรมที่สามารถใช้อย่างยาวนาน ซึ่งจำเป็นต้องรักษาไว้

หัวข้อประเด็น

-การประชุมระดมความคิด
-ธรรมวินัยในพุทธศาสนา
-ความสำคัญของการมีความเห็นหลายมุม
-สาวกนิครณฐ์
-การเข้าถึงสัจจะภายใน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

เพราะในปัจจุบันชาวโลกถือว่า การประชุมระดมความคิดก็ดี การให้สมาชิกในองค์กรทุกคน ช่วยกันเสนอความเห็นอันแตกต่างหลากหลายก็ดี จะช่วยให้งานที่ทำบังเกิดผลดีมากกว่าการที่ ใครคนใดคนหนึ่งคิดงานอยู่คนเดียวแล้วสั่งให้คนอื่นทำตาม ในสมัยพุทธกาลมีตัวอย่างหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็นนี้อยู่พอสมควรคือ กรณีสาวก นิครณฐ์แตกกันหลังจากนิคัณฐนาฏบุตรผู้เป็นเจ้าลัทธิถึงแก่กรรม ในครั้งนั้นพระอานนท์ได้ กราบทูลเรื่องนี้แด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า นิคัณฐนาฏบุตรถึงแก่กรรมแล้ว..... พวกนิครณฐ์ก็แตกกัน เกิดแยกเป็นสองพวก ฯลฯ โดยเหตุที่ธรรมวินัยที่นิคัณฐนาฏบุตรกล่าวไว้ไม่ดี ประกาศไว้ไม่ดี ไม่เป็นธรรมวินัยที่จะนำผู้ ปฏิบัติให้ออกจากทุกข์ได้ ไม่เป็นไปเพื่อความสงบ ไม่ใช่ธรรมวินัยที่ท่านผู้เป็นสัมมาสัมพุทธะ ประกาศไว้ เป็นธรรมวินัยที่ถูกทำลายเสียแล้ว เป็นธรรมวินัยไม่มีที่พึ่งพาอาศัย.... พระสัมมา สัมพุทธเจ้าตรัสรับรองว่า... ข้อนี้ย่อมเป็นอย่างนั้น... ธรรมวินัยที่ผู้ไม่ได้เป็นสัมมาสัมพุทธะประกาศไว้จะเป็นธรรมวินัยที่ไม่สมบูรณ์ เพราะ ศาสดามีความรู้ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากไม่ได้เป็นสัมมาสัมพุทธะ ดังนั้นธรรมวินัยนั้นจึงมีถูกบ้าง ผิดบ้าง เมื่อสาวกนำไปปฏิบัติจึงไม่สามารถพ้นทุกข์ได้ เมื่อไม่พ้นทุกข์ ไม่ได้เข้าถึงสัจจะที่แท้ จริงภายใน สาวกแต่ละคนก็จะตีความประสบการณ์ที่ตนปฏิบัติได้ไปต่าง ๆ กัน ซึ่งยากที่จะตรง กันเพราะต่างคนต่างทำและวิธีการที่ศาสดาสอนก็ไม่ถูกต้อง ด้วยเหตุนี้จึงแตกกันเพราะต่างคน ก็คิดว่าตนเองถูก แต่พระธรรมวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประกาศไว้ เป็นพระธรรมวินัยที่ สมบูรณ์ถูกต้อง เพราะพระองค์เป็นสัมมาสัมพุทธะมีความรู้ที่สมบูรณ์แล้ว เมื่อสาวกสาวิกานำ คำสอนไปปฏิบัติจนถึงที่สุดแล้วก็จะตรัสรู้ธรรมเหมือนกันตรงกัน ในประเด็นนี้มีข้อที่น่าศึกษาอีกคือแม้พระอรหันตสาวกคือผู้ที่ได้เข้าถึงสัจจะภายในแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่อนุญาตให้บัญญัติสิ่งที่ตถาคตมิได้บัญญัติไว้ ถามว่าเพราะอะไร จาก การศึกษาพบว่า พระอรหันตสาวกได้เข้าถึงสัจจะภายในแล้วก็จริง แต่ยังขาดคุณสมบัติหลาย ประการที่จะบัญญัติสิกขาบทได้ เนื่องจากสิกขาบทที่พระศาสดาบัญญัติไว้ จะต้องเป็นอกาลิโก จะเป็นแบบแผนใช้ปฏิบัติสืบต่อไปยาวนานอย่างน้อยๆ ก็ 5,000 ปี ด้วยเหตุนี้เองพระอรหันต สาวกจึงมีคุณสมบัติไม่พอที่จะบัญญัติได้และแม้พระปัจเจกพุทธเจ้าซึ่งมีบารมีมากกว่าพระอรหันต์ ก็ไม่อาจทำได้เช่นกัน หน้าที่นี้เป็นหน้าที่เฉพาะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น 1 ปาสาทิกสูตร, ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค, มก. เล่ม 15 ข้อ 95 หน้า 261. บ ท ที่ 7 นิ ติ ศ า ส ต ร์ ในพระไตรปิฎก DOU 181
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More