ข้อความต้นฉบับในหน้า
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้มนุษย์ทำกรรมดีหรือชั่วอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลให้เกิดบุญหรือ
บาปสั่งสมอยู่ในใจในปริมาณมากๆ คือ “นิสัย” อันเป็นความประพฤติที่เคยชิน หากมีนิสัยที่ดี
ก็เป็นเหตุให้ทำกรรมดีอย่างต่อเนื่อง จึงเกิดบุญอย่างต่อเนื่อง หากมีนิสัยชั่วก็เป็นเหตุให้
ทำกรรมชั่วอย่างต่อเนื่อง จึงเกิดบาปอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยนิสัยนั้นถูกบ่มเพาะขึ้นจาก 5 ห้อง
ที่เราใช้เป็นประจำในชีวิตประจำวัน คือ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องแต่งตัว และห้องทำงาน
ด้วยเหตุนี้หากเราต้องการบ่มเพาะนิสัยที่ดีให้เกิดขึ้นก็ต้องมีวิธีการใช้ห้องและวิธีบริหารจัดการ
ห้องทั้ง 5 ที่ถูกต้องเพื่อให้เป็นไปเพื่อการบ่มเพาะนิสัยที่ดีล้วนๆ
วิถีชีวิตของมนุษย์ทุกคนนั้นขึ้นอยู่กับกรรมที่ทำ กล่าวคือ หากทำความชั่ว ทำสิ่งที่เป็น
อกุศล ก็จะทำให้ชีวิตตกต่ำทั้งในชาตินี้และชาติหน้า คือ เมื่อละโลกแล้วก็จะไปสู่อบายภูมิ ได้แก่
สัตว์นรก เปรต อสุรกาย และ สัตว์ดิรัจฉาน ถ้าทำกรรมดี คือ สร้างบุญกุศลมากๆ ชีวิตก็จะ
เจริญรุ่งเรือง จะประสบความสำเร็จทั้งในชาตินี้ ละโลกไปแล้วก็จะไปสู่สุคติ และเมื่อสั่งสมบุญ
มากเข้าจนบุญในตัวกลั่นเป็นบารมีที่เต็มเปี่ยมแล้ว ก็จะขจัดกิเลสในตัวได้หมดสิ้นบรรลุพระ
นิพพานอันเป็นเป้าหมายชีวิตสูงสุดของมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย
การได้เกิดเป็นมนุษย์มีความสำคัญมากในฐานะที่สร้างบุญบารมีได้มากและสะดวกที่สุด
แม้เกิดเป็นเทวดาก็สร้างบุญบารมีได้ไม่สะดวกเหมือนมนุษย์ เพราะเทวดาเป็นกายละเอียด
เป็นช่วงการเสวยผลบุญ สามารถสร้างความดีได้เหมือนกัน แต่ผลจะไม่แรงเหมือนมนุษย์ซึ่ง
เป็นกายหยาบ ดังจะเห็นได้ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์จะตรัสรู้ธรรมในสภาวะเป็น
กายมนุษย์เท่านั้น
ชาวสวรรค์อยู่ได้ด้วยอำนาจบุญของตัวเองทิพยสมบัติเกิดขึ้นด้วยบุญที่ตนทำในสมัยเป็น
มนุษย์ เทวดาทั้งหลายจึงไม่อาจจะแบ่งทิพยสมบัติของตนเพื่อให้ทานแก่เทวดาท่านอื่นได้
เพราะเป็นของเฉพาะตน สำหรับสัตว์ดิรัจฉาน และ สัตว์นรก ยิ่งสร้างบุญบารมียากเข้าไปอีก
เพราะกำลังเสวยวิบากกรรมชั่วที่เคยทำไว้สมัยเป็นมนุษย์ แม้แต่คำว่าบุญยังแทบไม่รู้จักด้วยซ้ำไป
ในบทนี้จะไม่มีการเปรียบเทียบเนื้อหากับศาสตร์ทางโลก เพราะว่าหลักคำสอนใน
พระพุทธศาสนาจัดอยู่ในหมวดวิชามนุษยศาสตร์อยู่แล้ว
บทที่ 5 ม นุ ษ ย ศ า ส ต ร์ ในพระไตรปิฎก DOU 83