การศึกษาเรื่องกามคุณและการใช้ปัญญาในพระพุทธศาสนา GB 406 สรรพศาสตร์ในพระไตรปิฏก หน้า 268
หน้าที่ 268 / 373

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงการอุปมาในพระพุทธศาสนาที่ใช้คำว่าเขียงหั่นเนื้อและชิ้นเนื้อเพื่อสอนให้เข้าใจเรื่องกามคุณ 5 และความกำหนัด พร้อมกับการใช้ปัญญาในการละกามคุณและการศึกษาผ่านสื่อการสอน เช่น ภาพและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ช่วยให้การสื่อสารชัดเจนขึ้น โดยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงใช้สื่อต่างๆ ในการเทศน์เพื่อให้คนเข้าใจได้ง่ายขึ้น

หัวข้อประเด็น

-กามคุณ 5
-นันทิราคะ
-การใช้ปัญญา
-การสื่อสารในพระพุทธศาสนา
-อุปมาศัพท์ธรรมะ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

13. คำว่าเขียงหั่นเนื้อ เป็นชื่อแห่ง “กามคุณ 5 ประการ” คือ รูปที่เห็นด้วยตา ที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ ชวนให้รัก ชักให้ใคร่ พาใจให้กำหนัด เสียงที่รับรู้ด้วยหู ฯลฯ กลิ่นที่รับรู้ด้วย จมูก ฯลฯ รสที่รับรู้ด้วยลิ้น ฯลฯ โผฏฐัพพะที่รับรู้ด้วยกาย ฯลฯ กามคุณ 5 นี้จึงเป็นดุจเขียง สำหรับหุ่นผู้ที่ไปยึดติดกับมันให้พินาศไปจากคุณความดี กามคุณ 5 นี้สามารถละได้ด้วยการ ใช้ปัญญาเป็นเครื่องพิจารณาเช่นกัน 14. คำว่า ชิ้นเนื้อ เป็นชื่อแห่ง “นันทิราคะคือความกำหนัด” เมื่อกามคุณ 5 ผ่านเข้ามา ทางตา หู จมูก เป็นต้น หากเราเกิดความกำหนัดยินดีเข้ากับกามคุณนั้น ตัวเราก็ไม่ต่างกับ ชิ้นเนื้อที่พร้อมจะถูกหั่นบนเขียง คือ กามคุณ 5 นั้น ความกำหนัดนี้สามารถละได้ด้วยการใช้ ปัญญาเป็นเครื่องพิจารณาเช่นกัน 15. คำว่า นาค เป็นชื่อของ “พระอรหันต์” ซึ่งอธิบายได้ว่า เมื่อภิกษุผู้เสขะหรือผู้ที่ยังไม่ หมดกิเลส สามารถละนันทิราคะได้แล้ว เมื่อนั้นก็จะได้เป็นพระอรหันต์หลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง จากเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าเป็นการอุปมาศัพท์ธรรมะที่ลึกซึ้งด้วยภาษาพื้นบ้านที่คน รู้จักกันทั่วไปแม้บางศัพท์นักศึกษาอาจไม่ค่อยเข้าใจเพราะพื้นฐานความรู้ต่างกับพระกุมารกัสสปะ มาก แต่โดยภาพรวมแล้วจะชี้ให้เห็นว่า ลักษณะการสอนธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและ พุทธสาวกเป็นแบบนี้คือ อุปมาสิ่งที่ยากด้วยภาษาพื้นบ้าน 9.6.4 แสดงธรรมโดยใช้สื่อการสอนประกอบ ภาษิตจีนกล่าวไว้ว่า “ภาพ 1 ภาพ แทนคำพูดได้ 1 พันคำ” ภาษิตนี้เป็นจริงอย่างไม่ ต้องสงสัย นักศึกษาทุกท่านก็คงเข้าใจกันดี หากเอาภาพให้เขาดู ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเขาก็รู้ แล้วว่าสิ่งที่เราต้องการสื่อให้เขารู้คืออะไร แต่ถ้าต้องอธิบายด้วยคำพูดล้วนๆ โดยไม่มีภาพหรือ ไม่มีสื่อประกอบต้องใช้เวลานานกว่านั้นมาก และโอกาสที่ผู้ฟังจะเข้าใจไม่ตรงกันนั้นมีมาก เพราะคำพูดแต่ละคำสามารถตีความได้หลากหลาย แต่ถ้าใช้ภาพใช้สื่อประกอบจะประจักษ์ชัดแก่ สายตาของทุกคน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเองก็ทรงตระหนักถึงเรื่องนี้เช่นเดียวกัน จากหลักฐานในพระ ไตรปิฎกพบอยู่บ่อยครั้งว่า พระพุทธองค์ทรงใช้สื่อต่างๆ ประกอบการเทศน์ควบคู่ไปกับการใช้ อุปมาด้วย แม้จะไม่ได้ใช้ทุกครั้งก็ตามทั้งนี้เพราะขึ้นอยู่กับเวลาและสถานที่จะอำนวย โดยสื่อ และอุปกรณ์ที่ทรงใช้นั้นส่วนมากเป็นสิ่งใกล้ตัว เช่น เมื่อเสด็จจาริกไปเจอ “กองไฟ” อยู่ข้างทาง วัมมิกสูตร, มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ โอปัมมวรรค, มจร. เล่ม 12 ข้อ 249-251 หน้า 267-273. บทที่ 9 ว า ท ศ า ส ต ร์ ในพระไตรปิฎก DOU 257
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More