อาบัติในพระไตรปิฎก GB 406 สรรพศาสตร์ในพระไตรปิฏก หน้า 198
หน้าที่ 198 / 373

สรุปเนื้อหา

บทความนี้เสนอเรื่องอาบัติในพระไตรปิฎก แบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก คือ ครุกาบัติ ซึ่งเป็นอาบัติหนักหน่วง ประกอบด้วย ปาราชิก และสังฆาทิเสส อาบัติโดยเฉพาะปาราชิกมีโทษร้ายแรงจนวิธีแก้ไขไม่ได้ ส่วนสังฆาทิเสสสามารถกลับคืนสู่สภาพปกติได้ อาบัติเบาคือ ลหุกาบัติ มี 5 กอง ซึ่งสามารถแก้ไขด้วยการเปิดเผย โดยการแสดงความผิดและการขออภัยตามดุลยพินิจของสงฆ์ พร้อมอธิบายกิจจาธิกรณ์ที่สงฆ์ต้องกระทำภายในพระไตรปิฎก ซึ่งมี 4 ประการ ได้แก่ อปโลกนกรรมที่สงฆ์ประชุมเพื่อความเห็นพ้อง ญัตติกรรมที่มีการประกาศให้สงฆ์ทราบ ญัตติทุติยกรรม ซึ่งยืนยันการดำเนินการ และสุดท้าย ญัตติจตุตถกรรมที่เกี่ยวข้องกับกฎและพิธีกรรมต่างๆ ที่สงฆ์ต้องทำเพื่อให้งานสำเร็จ คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลนี้ได้ที่ dmc.tv

หัวข้อประเด็น

-อาบัติในพระไตรปิฎก
-ประเภทของอาบัติ
-ครุกาบัติและลหุกาบัติ
-กิจจาธิกรณ์ในพระไตรปิฎก
-การประกาศในที่ประชุมสงฆ์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

จะต้อง “อาบัติทุกกฏ” ทุกๆ คำพูด แต่ถ้าไม่ได้คิดจะด่าเพียงแต่ต้องการ “ล้อเล่น” แล้วพูดคำ ดังกล่าว จะต้อง “อาบัติทุพภาษิต” ทุกๆ คำพูด อาบัติทั้ง 7 กองนี้จัดเป็น 2 ประเภท คือ ครุกาบัติ และลหุกาบัติ ครุกาบัติ หมายถึง อาบัติหนัก จัดเป็นอาบัติชั่วหยาบที่เรียกว่า “ทุฏจุลลาบัติ” หรืออาบัติ ที่เป็นโทษ ได้แก่ ปาราชิก และสังฆาทิเสส ปาราชิกนั้นเป็นอาบัติหนักขั้น “อเตกิจฉา” คือ เยียวยาแก้ไขไม่ได้ ซึ่งทำให้ภิกษุผู้ต้องมีโทษถึงที่สุดคือขาดจากความเป็นภิกษุ ส่วนสังฆาทิเสส เป็นอาบัติหนักขั้น “สเตกิจฉา” พอเยียวยาแก้ไขให้กลับเป็นภิกษุปกติได้ด้วย “วุฏฐานคามินี” คือจะพ้นได้ด้วยการอยู่ปริวาสหรืออยู่กรรม ลหุกาบัติ หมายถึง อาบัติเบา จัดเป็น “อกุฏจุลลาบัติ” คืออาบัติไม่ชั่วหยาบ ได้แก่ อาบัติ 5 กองที่เหลือ ตั้งแต่ถุลลัจจัยลงมา ซึ่งจะแก้ไขได้หรือระงับได้ด้วย “เทสนาคามินี” คือการแสดง หมายถึงเปิดเผยความผิดของตนต่อหน้าพระภิกษุหรือหมู่พระภิกษุคือสงฆ์ 7.10.4 กิจจาธิกรณ์ : กิจที่สงฆ์จะพึงกระทำ กิจจาธิกรณ์ หมายถึง กิจที่สงฆ์จะพึงกระทำมี 4 ประการ คือ อปโลกนกรรม ญัตติกรรม ญัตติทุติยกรรม และญัตติจตุตถกรรม อปโลกนกรรม หมายถึง กรรมคือการบอกเล่ากันในที่ประชุมสงฆ์เพื่อขอความเห็น ชอบร่วมกัน เพื่อทำกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น การอปโลกน์กฐิน คือ การที่ตัวแทนสงฆ์แจ้งให้ สงฆ์ทราบว่าจะยกผ้ากฐินให้กับพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง เพื่อขอความเห็นชอบจากคณะสงฆ์ใน พิธีกรรมทอดกฐินประจำปี หากพระภิกษุทุกรูปในที่ประชุมสงฆ์เห็นพ้องกันหรือมีมติร่วมกัน ไม่มีใครคัดค้านพระภิกษุรูปที่ได้รับการเสนอชื่อนั้นก็จะได้ผ้ากฐินนั้นมาใช้สอย ญัตติกรรม คำว่า “ญัตติ” แปลว่า คำเผดียงสงฆ์ หมายถึง การประกาศให้สงฆ์ทราบ เพื่อทำกิจร่วมกัน ญัตติกรรม หมายถึง กรรมอันกระทำด้วยการตั้งญัตติเพียงอย่างเดียว คือ เพียงแต่ประกาศให้สงฆ์ทราบว่าจะทำกิจนั้นๆ เท่านั้น ไม่มีการขอมติจากคณะสงฆ์เหมือน อปโลกนกรรม เช่น การทำอุโบสถหรือพิธีฟังสวดพระปาฏิโมกข์ เป็นต้น ญัตติทุติยกรรม แปลว่า กรรมที่มีญัตติเป็นที่สอง หมายถึง กรรมที่มีวาจาหรือการ กล่าวครบ 2 รวมทั้งญัตติ กล่าวคือ เมื่อมีการสวดตั้งญัตติแล้ว จะมีการสวดอนุสาวนา คือ คำ สวดประกาศขอมติจากสงฆ์อีกหนึ่งครั้งรวมเป็นสองจึงชื่อว่าญัตติทุติยกรรมเช่นการทำสังคายนา พระไตรปิฎก การสมมติสีมา เป็นต้น บทที่ 7 นิ ติ ศ า ส ต ร์ ในพระไตรปิฎก DOU 187
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More