ข้อความต้นฉบับในหน้า
(1) กลุ่มเกษตรกร ได้แก่ ชาวนา ชาวไร่ ผู้ทำการเกษตรและกสิกรรม
(2) กลุ่มพ่อค้าย่อย ได้แก่ พ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบอาชีพอิสระทั้งหลาย
(3) กลุ่มข้าราชการชั้นผู้น้อย และผู้รับจ้างในวงราชการ
ในยุคปัจจุบันมีการพัฒนาอุตสาหกรรม ทำให้เกิดกลุ่มใหม่เพิ่มขึ้นมา คือ กรรมกร
ผู้ใช้แรงงาน ซึ่งก็อาจจะรวมอยู่ในกลุ่มที่หนึ่งของระดับล่าง คือ กลุ่มเกษตรกร
กลุ่มเป้าหมายระดับบน 4 กลุ่ม
กลุ่มเป้าหมายระดับบน ถือเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลในแผ่นดิน หากเทียบปริมาณแล้ว กลุ่ม
นี้มีจำนวนน้อยกว่าคน 3 กลุ่มในระดับล่างมาก แต่แม้จะมีปริมาณน้อย ถึงกระนั้นกลุ่มคน
เหล่านี้ก็มีอิทธิพลมากต่อการเมืองการปกครอง ซึ่งมีดังนี้
(1) กลุ่มเจ้าเมืองประเทศราช หากเทียบกับในปัจจุบัน ได้แก่ กลุ่มนักการเมืองระดับ
ชาติ เช่น สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.), สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.), คณะรัฐมนตรี ฯลฯ กลุ่มคน
เหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจปัญหาสำคัญของประเทศ
(2) กลุ่มอำมาตย์ราชบริพารผู้ใหญ่หากเทียบกับในปัจจุบันได้แก่ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
เช่น เสนาธิการ, ปลัดกระทรวง, อธิบดี, ผู้ว่าราชการจังหวัด, ผู้บัญชาการทหารทุกเหล่า ฯลฯ
ซึ่งถือเป็นกลุ่มรับนโยบายไปปฏิบัติ
(3) กลุ่มพราหมณ์มหาศาล หากเทียบกับในปัจจุบัน ได้แก่ ผู้นำทางความคิด
นักวิชาการใหญ่ สื่อมวลชนใหญ่ ซึ่งเป็นสถาบันทางความคิดที่ถ่วงดุลอำนาจรัฐโดยการชี้นำ
ประชาชน
(4) กลุ่มคหบดีมหาศาล หากเทียบกับในปัจจุบัน ได้แก่ กลุ่มนักธุรกิจใหญ่ๆ หรือ พวก
พ่อค้าระดับประเทศ เป็นกลุ่มที่มีทรัพย์มาก มีบริวารซึ่งเป็นชนในระดับล่างมาก
6.9.3 การปราบโจรที่ต้นเหตุคือเศรษฐกิจ
หากถามว่า ทำไมชาวชนบทบางกลุ่มของพระเจ้ามหาวิชิตราชจึงต้องเป็นโจร คำตอบ
คงมีหลากหลาย แต่เมื่อย้อนกลับไปทบทวน “หัวข้อประวัติศาสตร์โลกและมนุษยชาติ” ใน
เรื่องมนุษยศาสตร์ในพระไตรปิฎกจะพบว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้คนเป็นโจรมีอยู่อย่างน้อย 2
ประการคือ กิเลสคือความโลภในตัวบีบบังคับ และความยากจนอันเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจ
เป็นแรงกดดัน
บทที่ 6 รัฐศาสตร์ในพระไตรปิฎก DOU 145