ข้อความต้นฉบับในหน้า
ส่วนการโต้วาทธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพุทธบริษัทนั้นได้ชี้ให้เห็นความ
สำคัญของการศึกษาธรรมะให้แตกฉานทั้งปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธ เพื่อประโยชน์แก่ตนเอง
และเพื่อประโยชน์แก่พระศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถปกป้องความมัวหมองของคำสอน
ในพระพุทธศาสนาได้เมื่อมีนักบวชหรือศาสนิกอื่นมาจาบจ้วง ในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา
นั้นมีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้
กิดขึ้นเป็นระยะๆ ซึ่งต้องอาศัยพุทธบริษัทที่รู้จริงแตกฉานในพุทธธรรม
มาช่วยแก้ต่างให้พระศาสนา เช่น ท่านคุณานันทเถระแห่งปะเทศศรีลังกา เป็นต้น
9.2 วาจาสุภาษิตหลักพื้นฐานของการพูด
ในหัวข้อนี้กล่าวถึงอานุภาพแห่งพระดำรัสอันเป็นสุภาษิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ซึ่งสามารถยังมหาชนให้หลุดพ้นจากความทุกข์และบรรลุพระนิพพานอันเกษมได้ กล่าวถึง
องค์ 8 แห่งพระสุรเสียงของพระพุทธองค์อันเป็นผลที่เกิดจากการกล่าววาจาสุภาษิตมานับภพ
นับชาติ ไม่ถ้วน และประเด็นสุดท้าย คือ หลักการพื้นฐานของวาจาสุภาษิต
9.2.1 บรรดาชนผู้พูดพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นผู้ประเสริฐ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ในวุฏฐิสูตรว่า “บรรดาสิ่งที่งอกขึ้นความรู้เป็นประเสริฐ
บรรดาสิ่งที่ตกไปความไม่รู้เป็นประเสริฐ บรรดาสัตว์ที่เดินด้วยเท้าพระสงฆ์เป็นผู้ประเสริฐ
บรรดาชนผู้พูดพระพุทธเจ้าเป็นผู้ประเสริฐ” ทั้งนี้เพราะในวัฏสงสารอันเต็มไปด้วยความระทม
ทุกข์ มนุษย์และสัตว์ทั้งหลายต่างเวียนว่ายตายเกิดกันมายาวนาน หากนำกระดูกที่เกิดแล้ว
ตายมากองรวมกันจะสูงเท่าภูเขาเหล่ากา ในบรรดามนุษย์และสัตว์เหล่านั้นไม่มีใครเลยที่จะ
ช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ได้ ยกเว้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระดำรัสของพระองค์ยังมหาชนให้หลุดพ้น
จากกิเลสอันเป็นต้นตอของความทุกข์ได้ พระวังคีสอรหันตสาวกกล่าวไว้ว่า “พระสัมมาสัมพุทธ
เจ้าตรัสพระวาจาใดอันเป็นวาจาเกษมเพื่อทำที่สุดแห่งทุกข์วาจานั้นยอดเยี่ยมกว่าวาจาทั้งหลาย”
มหาชนชาวชมพูทวีปที่ได้ฟังธรรมของพระองค์ต่างก็กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “ภาษิต
ของพระองค์ไพเราะ แจ่มแจ้ง ชัดเจน เหมือนหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่ ผู้หลง
ทาง หรือ ตามประทีปในที่มืด” เมื่อได้ฟังพระสัทธรรมแล้วบางพวกก็ออกบวช บางพวกก็ขอถึง
พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งไปตลอดชีวิต เขาเหล่านั้นพากันละทิ้งความเชื่อดั้งเดิมในลัทธิต่างๆ ที่
สืบทอดกันมาเพราะได้ฟังพระดำรัสของพระพุทธองค์บางท่านเพียงแค่ได้ฟังธรรมโดยย่อบนถนน
ก็สามารถบรรลุอรหัตผลได้ เช่น พระพาหิยทารุจีริยะ เป็นต้น
วุฏฐิสูตร, สังยุตตนิกาย สคาถวรรค, มก. เล่ม 24 ข้อ 206 หน้า 302
บทที่ 9 ว า ท ศ า ส ต ร์ ในพระไตรปิฎก DOU 237