ข้อความต้นฉบับในหน้า
ส่วนความรู้ด้านละเอียด เช่น เรื่องนรก สวรรค์ เปรต เรื่องนิพพาน โลกันต์ หรือ
คำสอนที่ว่า คนที่เกิดมาร่ำรวยในชาตินี้นั้นเพราะในอดีตชาติได้ให้ทานแก่เนื้อนาบุญมามาก
ส่วนคนที่ยากจนเพราะในอดีตชาติไม่ค่อยได้ให้ทาน เป็นต้น เรื่องเหล่านี้ยากแก่การพิสูจน์ ชาว
โลกโดยมากจึงไม่เชื่อ และนักวิทยาศาสตร์โดยส่วนใหญ่ก็ไม่เชื่อในเรื่องนี้ โดยให้เหตุผลว่าไม่
อาจพิสูจน์ได้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์
จริงๆ แล้วทัศนะของวิทยาศาสตร์นั้นมีส่วนถูกอยู่เหมือนกัน กล่าวคือ เรื่องละเอียด
จำพวก นรก สวรรค์ นิพพาน โลกันต์ เป็นต้น ไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์
แต่ต้องพิสูจน์ด้วยวิธีการทางพุทธศาสตร์คือ “พิสูจน์ด้วยใจ”
ในวงการวิทยาศาสตร์นั้นใช้อินทรีย์เพียง 5 ประการ ในการศึกษาทดลองและพิสูจน์
ความจริงต่าง ๆ ในโลก คือ ตา หู จมูก ลิ้น และร่างกาย วิทยาศาสตร์กระแสหลักไม่ยอมรับ
อินทรีย์ที่ 6 คือ “ใจ” และมักคิดว่าใจเป็นส่วนหนึ่งของสมองอันเป็นส่วนของร่างกาย แต่
พระพุทธศาสนายอมรับเรื่อง “ใจ” และถือว่าใจนี้มีความสำคัญมาก ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของสมอง
แต่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่อิสระจากร่างกาย ดังได้กล่าวแล้วในเรื่องจิตตนิยาม
ในการพิสูจน์ความจริงต่าง ๆ ในโลกนั้น จะต้องใช้อินทรีย์ที่เหมาะกับสิ่งนั้น ๆ จึงจะ
พิสูจน์ได้ เช่น “รูป” ต้องพิสูจน์ด้วย “ตา”, “เสียง” ต้องพิสูจน์ด้วย “หู”, “กลิ่น” ต้องพิสูจน์ด้วย
“จมูก”, “รส” ต้องพิสูจน์ด้วย “ลิ้น”, “สัมผัสที่นุ่มหรือแข็ง” ต้องพิสูจน์ด้วย “ร่างกาย” เป็นต้น
“หู, จมูก, ลิ้น, ร่างกาย” ไม่สามารถพิสูจน์ “รูปภาพ” ได้ว่าสวยหรือไม่สวยแต่จะต้องใช้ “ดวงตา”
เท่านั้นในการพิสูจน์ในขณะเดียวกัน “ตา, จมูก, ลิ้น, ร่างกาย” ก็ไม่อาจจะพิสูจน์ “เสียงเพลง” ได้ว่า
ไพเราะหรือไม่ แต่จะต้องใช้ “หู” เท่านั้นในการพิสูจน์ และในความเป็นจริงแล้วอินทรีย์ทั้ง 5
ประการยังต้องทำงานร่วมกับ อินทรีย์ 6 คือ ใจ อีกชั้นหนึ่งจึงจะครบวงจรดังได้กล่าวแล้วใน
เรื่องจิตตนิยาม
ในขณะเดียวกันอินทรีย์ที่ 6 คือ “ใจ” นี้ยังใช้ตัวมันเองพิสูจน์ความจริงของโลกได้อีก
มากมาย โดยเฉพาะเรื่องละเอียดจำพวก นรก สวรรค์ นิพพาน โลกันต์ เป็นต้น เรื่องเหล่านี้
ต้องใช้ใจพิสูจน์เท่านั้น ไม่อาจจะใช้ ตา หู จมูก ลิ้น ร่างกายของกายมนุษย์พิสูจน์ได้เปรียบเสมือน
กับที่กล่าวแล้วว่า หู พิสูจน์ไม่ได้ว่า รูปภาพ สวยหรือไม่ ต้องใช้ ตา เท่านั้นจึงจะพิสูจน์ได้
เป็นต้น หากชาวโลกยอมรับเรื่องใจ และทดลองพิสูจน์ด้วยการฝึกใจให้ละเอียดด้วยการทำสมาธิ
จนถึงระดับที่สามารถเห็นภพภูมิละเอียดเหล่านี้ได้ ก็จะรู้ว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริงตามที่บันทึกไว้
ใน พระไตรปิฎก
หู
บทที่ 1 0 วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ ในพระไตรปิฎก DOU 309