การวิวัฒนาการและกำเนิดเอกภพ GB 406 สรรพศาสตร์ในพระไตรปิฏก หน้า 67
หน้าที่ 67 / 373

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงวิวัฒนาการของภาพรวมทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการกำเนิดเอกภพ อีกทั้งยังมีการพูดถึงทฤษฎี Big Bang ซึ่งถูกเสนอขึ้นจากการสังเกตการเคลื่อนที่ของดวงดาวและกาแล็กซีที่แสดงถึงการขยายตัวของเอกภพ โดยมีสสารมืดที่เป็นองค์ประกอบสำคัญซึ่งมีมากกว่าร้อยละ 90 ของมวลในจักรวาล นักวิทยาศาสตร์กำลังสำรวจทฤษฎีที่จะคาดการณ์อนาคตของเอกภพว่าจะมีการขยายตัวหรือหดตัวไปอย่างไรในอนาคต, ซึ่งยังคงอยู่ในกระบวนการศึกษาต่อไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้แนวคิดของการชนกันหรือความคงที่ในกลไกของเอกภพ.

หัวข้อประเด็น

-วิวิวัฒนาการของเอกภพ
-ทฤษฎี Big Bang
-สสารมืด
-การขยายตัวของเอกภพ
-อนาคตของจักรวาล

ข้อความต้นฉบับในหน้า

วิวัฒนาการ” ทรรศนะของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์นี้ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ที่ประเทศเยอรมนี เป็นหนังสือชื่อว่า “การสร้างกับวิวัฒนาการ” (Creation and Evolution) 3.3 การกำเนิดและโครงสร้างของเอกภพ 3.3.1 การกำเนิดของเอกภพ เมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบเกี่ยวกับเอกภพ ก็ได้พยายามหาคำตอบเกี่ยวกับกำเนิด เอกภพ โดยคิดทฤษฎีขึ้นมาหลายทฤษฎี ในอดีตมีทฤษฎีที่เชื่อว่าน่าจะเป็นไปได้ คือ ทฤษฎีที่ เห็นว่า จักรวาลคงที่และเป็นระบบที่ชัดเจน จนกระทั่งเมื่อมีการผลิตกล้อง Hubble ขึ้น ก็ได้มี ทฤษฎีใหม่ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด คือ ทฤษฎี Big Bang หรือ การระเบิดครั้งใหญ่ โดย เมื่อนักวิทยาศาสตร์ส่องกล้องไป พบว่า ดวงดาวหรือกาแล็กซี่เคลื่อนออกจากกัน เขาจึง สันนิษฐานว่า เอกภพเกิดขึ้นจากการระเบิดครั้งใหญ่ การระเบิดนั้นมีการระเบิดออกมา จากจุดศูนย์กลาง เมื่อระเบิดแล้วก็เกิดการกระจายตัวของฝุ่นละอองต่าง ๆ แล้วมารวมตัวกัน เป็นเกลียว เรียกว่า Galaxy เป็นกาแล็กซีน้อยใหญ่ขึ้นมา และเกิดตัวระบบใหญ่เรียกว่า Universe โดยมีจุดศูนย์กลางเรียก จุด Singularity แรงเหนี่ยวจากการระเบิดครั้งใหญ่นั้นเองที่ทำให้ ดวงดาวและกาแล็กซีต่าง ๆ เคลื่อนออกจากกัน นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังได้สังเกตการหมุนของกาแล็กซี ทำให้ค้นพบสสารบาง อย่างซึ่งทำให้ดวงดาวในกาแล็กซี่เคลื่อนที่ได้อย่างช้าๆ ถ้าหากไม่มีแรงโน้มถ่วงจากสสารลึกลับ นี้เข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว เหล่าดวงดาวในกาแลกซีก็จะเคลื่อนที่ได้เร็วกว่านี้ นักวิทยาศาสตร์ จึงตั้งชื่อสสารนี้ว่า สสารมืด (Dark Matter) มีการประมาณกันว่าสสารมืดเป็นองค์ประกอบกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของมวลทั้งหมดในจักรวาล นักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษาดูแนวโน้มของเอกภพในอนาคต จึงคิดทฤษฎีเกี่ยวกับ ลักษณะการขยายตัวของเอกภพ และสรุปทฤษฎีว่า เอกภพอาจจะขยายตัวต่อไปเรื่อยๆ ไม่มีที่ สิ้นสุด หรือจะขยายตัวแล้วก็จะคงที่ หรือจะค่อยๆ หดตัวกลับมารวมกันและเกิดการชนกัน เป็นจุดจบของเอกภพ ก็เป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์กำลังค้นหากันต่อไป ผู้จัดการ. (2550), “โป๊ปวิพากษ์วิทยาศาสตร์แคบเกินอธิบายกำเนิดสิ่งมีชีวิต.” [ออนไลน์]. * D.Finley, D.Aguilar (November 2, 2005).Astronomers Get Closest Look Yet At Milky Way's Mysterious Core. National Radio Astronomy Observatory. Retrieved on 2006-08-10. 56 DOU สรรพศาสตร์ ในพระไตรปิฎก
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More