ข้อความต้นฉบับในหน้า
3 ประเด็น คือ แพทยศาสตร์ในพระไตรปิฎกกับการแพทย์แบบองค์รวม เปรียบเทียบการดูแล
รักษาสุขภาพร่างกาย และ เปรียบเทียบการดูแลรักษาสุขภาพจิตใจ ดังนี้
11.4.1 แพทยศาสตร์ในพระไตรปิฎกกับการแพทย์แบบองค์รวม
กระบวนทัศน์ของการแพทย์แผนปัจจุบันที่ได้กล่าวไว้ในบทที่ 2 แบ่งเป็น 2 ทัศนะคือ
วัตถุนิยมเชิงจักรกล (Mechanical Materialism) และ ทัศนะว่าด้วยองค์รวม (Holism)
โดยทัศนะแรกคือ วัตถุนิยมเชิงจักรกล มองมนุษย์เป็นเหมือนเครื่องยนต์กลไก
สามารถอธิบายให้เข้าใจได้ด้วยวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟิสิกส์และเคมี ชีวิต
มนุษย์ถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ เมื่อส่วนใดชำรุดหรือสึกหรอก็จะถูกแยกส่วนออกมาซ่อมให้กลับคืน
สู่ภาวะปกติเฉพาะส่วนนั้น ๆ ทัศนะนี้แบ่งมนุษย์ออกเป็น 2 ส่วน คือ ร่างกาย และ จิตใจ แต่ไม่
ได้มองว่า 2 ส่วนนี้สัมพันธ์กัน และแม้ทัศนะนี้จะกล่าวถึงเรื่องจิตใจแต่ก็เป็นจิตใจแบบหุ่นยนต์ที่
ปราศจากความรู้สึกนึกคิด เจตนา และจุดประสงค์
ส่วนทัศนะที่สอง คือ ทัศนะว่าด้วยองค์รวม ทัศนะนี้เชื่อว่า ชีวิตมนุษย์ประกอบด้วย 2
ส่วน คือ ร่างกายและจิตใจเช่นกัน แต่มองว่าทั้งสองส่วนนี้เป็นของเนื่องกัน มิได้แยกเป็นอิสระ
จากกัน การแยกก็เพื่อสะดวกในทางปฏิบัติ แต่หลังจากแยกแล้วจะมีการโยงส่วนต่าง ๆ เข้าหากัน
และมองว่าชีวิตมิอาจเข้าใจได้ด้วยวิธีการทางฟิสิกส์เคมีเท่านั้นโดยเฉพาะเรื่องจิตใจไม่อาจอธิบาย
ได้ด้วยวิธีการเหล่านี้ ส่วนการรักษาจะมองเฉพาะส่วนไม่ได้แต่ต้องมองทั้งระบบ
เมื่อนำหลักแพทยศาสตร์ในพระไตรปิฎกมาเปรียบเทียบกับกระบวนทัศน์ของการแพทย์
แผนปัจจุบันแล้วพบว่า หลักแพทยศาสตร์ในพระไตรปิฎกมีความสอดคล้องกับกระบวนทัศน์ว่า
ด้วยองค์รวมในประเด็นที่ว่า ร่างกายกับจิตใจสัมพันธ์กัน แต่ทั้งนี้หลักการแพทย์ในพระพุทธ
ศาสนามีความลึกซึ้งกว่าเพราะมีความเข้าใจเรื่องจิตใจอย่างกระจ่างชัดและได้กล่าวถึงเรื่องบาปที่
ถูกเก็บไว้ในใจอันเป็นสาเหตุสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วยทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ
ซึ่งการรักษานั้นจะต้องใช้ธรรมโอสถคือบุญเป็นเครื่องชำระล้างบาปนั้นออกไปจึงจะทำให้ผู้
ป่วยหายจากโรคได้
11.4.2 เปรียบเทียบการดูแลรักษาสุขภาพร่างกาย
ในหัวข้อนี้จะเปรียบเทียบ 4 ประเด็น คือ ดุลยภาพบำบัดในสมัยพุทธกาลกับยุค
ปัจจุบัน เปรียบเทียบยาในสมัยพุทธกาลกับยุคปัจจุบัน การผ่าตัดในสมัยพุทธกาลกับการผ่าตัด
ในปัจจุบัน และการขับพิษในสมัยพุทธกาลกับยุคปัจจุบัน ดังนี้
344 DOU สรรพ ศ า ส ต ร์ ในพระไตรปิฎก