ข้อความต้นฉบับในหน้า
การรับประทานอาหารอย่างพอดีนั้น เราจะอยู่เป็นสุข ไม่หิว และไม่อึดอัด นอกจากนี้
คนที่รับประทานอาหารมากจนเกินไป จะเป็นเหตุให้อาหารไม่ย่อยและเสียชีวิตได้ เช่น นายโก-
ตุหลัก ภัททวายเศรษฐี และนักบวชเปลือยชื่อโกรักขัตติยะ เป็นต้น
ความพอดีของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและเพศภาวะ สำหรับ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระภิกษุในสมัยพุทธกาลนั้น ฉันภัตตาหารเพียงมื้อเดียว ก็เพียงพอต่อ
ความต้องการของร่างกายแล้ว เพราะหน้าที่ของนักบวชคือการปฏิบัติธรรมและสอนธรรมะ ไม่
ได้ทำงานที่ใช้แรงงานหนักเหมือนฆราวาสบางอาชีพ จึงไม่จำเป็นต้องฉัน ภัตตาหารมาก
พระพุทธองค์ตรัสอานิสงส์การฉันมื้อเดียวไว้ว่า “เราฉันอาหารมื้อเดียว...สุขภาพมีโรคาพาธน้อย
กระปรี้กระเปร่า มีพลานามัยสมบูรณ์ อยู่สำราญ”
3
สำหรับวิธีการรับประทานอาหารให้พอดีในแต่ละมื้อนั้น พระสารีบุตรกล่าวไว้ว่า “พึง
เลิกฉันก่อนอิ่ม 4 - 5 คำ แล้วดื่มน้ำเท่านี้ก็เพียงพอเพื่ออยู่ผาสุกของภิกษุผู้มีใจเด็ดเดี่ยวมุ่ง
นิพพาน” เหตุที่ต้องเลิกก่อนฉันอิ่ม 4 - 5 คำนั้น ก็เพื่อสำรองพื้นที่ในกระเพาะไว้สำหรับอาหาร
ที่อยู่ระหว่างเดินทางในหลอดอาหาร และน้ำที่จะดื่มหลังเลิกฉันอาหารแล้ว เมื่ออาหารใน
หลอดอาหารตกถึงกระเพาะ และดื่มน้ำเข้าไปแล้วก็จะทำให้รู้สึกอิ่มพอดี
3) บริโภคสิ่งที่ย่อยง่าย
อาหารที่รับประทานเข้าไปแล้วจะย่อยง่ายหรือย่อยยากขึ้นอยู่กับเหตุอย่างน้อย 2
ประการ คือ ประเภทของอาหาร และ ความคุ้นเคยกับอาหาร โดยประเภทของอาหารนั้น หาก
เป็นอาหารจำพวกเนื้อสัตว์จะย่อยยาก แต่ถ้าเป็นผักผลไม้จะย่อยง่าย ส่วนความคุ้นเคยกับ
อาหารนั้นคือ คนแต่ละท้องถิ่นและแต่ละชาติจะคุ้นเคยกับอาหารแตกต่างกันไป หรือ บางคนคุ้น
เคยกับอาหารดีๆ ประณีต แต่เมื่อต้องไปรับประทานอาหารที่ไม่ประณีต ก็เป็นเหตุให้ระบบ
การย่อยทำงานไม่เป็นปกติหรือไม่ย่อยเพราะไม่คุ้นเคยกับอาหารนั้น บางคนถึงกับเสียชีวิต
ด้วยเหตุนี้ได้ เช่น พระเจ้าปเสนทิโกศล เป็นต้น ก่อนสวรรคตพระองค์เสด็จไปเมืองราชคฤห์
* อรรถกถาโกสัมพิยสูตร, อรรถกถามัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์, มก. เล่ม 19 หน้า 418,
มโนรถปูรณี อรรถกถาอังคุตตรนิกาย เอกนิบาต, มก. เล่ม 33 หน้า 113,
ปาฏิกสูตร, ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค, มก. เล่ม 15 หน้า 7.
* ภัททาลิสูตร, มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์, มก. เล่ม 13 ข้อ 134 หน้า 150 -151.
ขุททกนิกาย เถรคาถา, มจร. เล่ม 26 ข้อ 983 หน้า 500-501.
320 DOU สรรพ ศ า ส ต ร์ ในพระไตรปิฎก