เศรษฐศาสตร์แห่งความสุข GB 406 สรรพศาสตร์ในพระไตรปิฏก หน้า 234
หน้าที่ 234 / 373

สรุปเนื้อหา

บทความนี้สำรวจความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคและความสุขของมนุษย์ โดยชี้ให้เห็นว่ามนุษย์มักคำนึงถึงประโยชน์ส่วนตน และการบริโภคกลายเป็นเป้าหมายในการสร้างความสุข แต่อย่างไรก็ตาม บางงานวิจัยแสดงให้เห็นว่า แม้จะมีการเพิ่มขึ้นของรายได้และการบริโภค ค่าความพึงพอใจในชีวิตกลับลดลง สถิติเกี่ยวกับชาวญี่ปุ่น และข้อมูลจากสหรัฐอเมริการะบุว่า ความสุขที่เพิ่มขึ้นไม่สัมพันธ์กับการบริโภคที่มากขึ้น การศึกษาเหล่านี้บ่งชี้ว่าเงินไม่ได้ซื้อความสุขอย่างแท้จริง และมนุษย์ยังมองหาความสุขในด้านอื่นๆ นอกเหนือจากการบริโภค อดัม สมิธ ชี้ให้เห็นในธรรมชาติของมนุษย์ว่ามีหลักการบางอย่างที่ส่งผลต่อพฤติกรรมแม้ในความเห็นแก่ตัวก็ตาม ข้อมูลจากหนังสือเศรษฐศาสตร์ธรรมิกราชา เป็นการสรุปความเข้าใจในเศรษฐศาสตร์แห่งความสุข และกระตุ้นให้เห็นความสำคัญของการพึ่งพาความสุขที่ไม่ต้องอิงจากการบริโภค

หัวข้อประเด็น

-ความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคและความสุข
-ความพึงพอใจในชีวิต
-เศรษฐศาสตร์แห่งความสุข
-การบริโภคในสังคม
-มุมมองของอดัม สมิธ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

2) มนุษย์จะคำนึงถึงประโยชน์ของตนเองเท่านั้น มนุษย์จะพึงพอใจมากขึ้น บริโภคของตนเองเท่านั้น โดยไม่ต้องสนใจความพึงพอใจหรือสวัสดิการของผู้อื่น เกขนกิด้วยการ 3) มนุษย์จะต้องเร่งการบริโภคของตนเพื่อให้มีความสุขเพิ่มขึ้น การบริโภคจึงแปลง สภาพจากเครื่องมือมาเป็นเป้าหมายของการสร้างความสุขของมนุษย์ 4) สังคมจะดีขึ้นจากการเร่งการบริโภคของทุกๆ คน นิยามคำว่า สวัสดิการสังคม คือ ผลรวมของความพึงพอใจของแต่ละคนในสังคม ดังนั้น การเร่งบริโภคโดยรวมของสังคมจึง กลายมาเป็นเป้าหมายของสังคมไปด้วยโดยอัตโนมัติ ในช่วงเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ได้มีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการตอบ คำถามว่า มนุษย์มีความสุขมากขึ้นจากการมีเงินและการบริโภคเพิ่มมากขึ้นจริงหรือไม่ ผลการ ศึกษาในสหรัฐอเมริกาและในหลายประเทศพบว่าเงินสามารถซื้อความสุขได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และการสร้างความสุขดังกล่าวก็เป็นไปในลักษณะถดถอย กล่าวคือ ต้องใช้เงินเพิ่มมากขึ้น อย่างมาก ในการเพิ่มความสุขขึ้นในอัตราเท่าเดิม การศึกษาที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่ง คือ การศึกษาถึงความสัมพันธ์ของการเพิ่มขึ้นของ รายได้ต่อหัวกับความพึงพอใจในชีวิตของชาวญี่ปุ่นตั้งแต่ปี ค.ศ.1958-1991 (พ.ศ.2501 - 2534) ปรากฏว่า ในช่วงเวลา 33 ปี รายได้ต่อหัวของชาวญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นกว่า 16 เท่า แต่ชาว ญี่ปุ่นกลับมีความรู้สึกว่าตนเองไม่ได้มีความพึงพอใจในชีวิตเพิ่มขึ้นเลยตลอดช่วงเวลา 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ในแง่ของการบริโภค การสำรวจในสหรัฐอเมริกาพบว่า แม้ว่า ร้อยละของครัวเรือนอเมริกันที่มีเครื่องปรับอากาศจะเพิ่มขึ้น 5 เท่า ร้อยละของครัวเรือนที่มี เครื่องล้างจานจะเพิ่มขึ้น 7 เท่า ร้อยละของครัวเรือนที่มีรถยนต์มากกว่า 1 คันจะเพิ่มขึ้น 3 เท่า แต่ชาวอเมริกันยังรู้สึกว่าตนเองยากจนลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเปรียบเทียบกับ 2 ทศวรรษก่อน จากข้อมูลดังกล่าวอาจสรุปได้ว่า ความเชื่อเรื่อง เงินซื้อความสุข หรือ การบริโภคนำมา ซึ่งความสุข มิได้เป็นความจริงเสมอไป มนุษย์มิได้มีความสุขเพิ่มขึ้นแม้ว่าจะมีการบริโภคเพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่องและมนุษย์ก็เริ่มและขวนขวายที่จะแสวงหาความสุขที่มิได้เกิดจากการบริโภคมากขึ้น เรื่อย ๆ อดัม สมิธ บิดาของวิชาเศรษฐศาสตร์สมัยใหม่ได้กล่าวไว้ว่า ต่อให้มนุษย์เห็นแก่ตัวแค่ ไหนก็ตาม ก็ยังเห็นได้ชัดว่า ยังมีหลักการบางอย่างอยู่ในธรรมชาติของมนุษย์ ที่ทำให้มนุษย์ ' เดชรัต สุขกำเนิด (2550) เศรษฐศาสตร์แห่งความสุข, จากหนังสือ “เศรษฐศาสตร์ธรรมิกราชา” (2550). กนกศักดิ์ แก้วเทพ, บรรณาธิการ.หน้า 79. * เดชรัต สุขกำเนิด (2550). “เศรษฐศาสตร์แห่งความสุข. จากหนังสือเศรษฐศาสตร์ธรรมิกราชา” (2550). กนกศักดิ์ แก้วเทพ, บรรณาธิการ หน้า 91. บทที่ 8 เศรษฐศาสตร์ ใน พระไตรปิฎก DOU 223
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More