ชีวกโกมารภัจจ์และการแพทย์ในพระไตรปิฎก GB 406 สรรพศาสตร์ในพระไตรปิฏก หน้า 343
หน้าที่ 343 / 373

สรุปเนื้อหา

ชีวกโกมารภัจจ์ได้ถูกเลี้ยงดูโดยเจ้าชายอภัยและตั้งใจเรียนวิชาแพทย์ที่เมืองตักกสิลา เมื่อเรียนสำเร็จ เขาได้ช่วยรักษาผู้ป่วยในเมืองราชคฤห์และได้รับการแต่งตั้งเป็นแพทย์หลวงของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การรักษาในสมัยนั้นมีวิธีคล้ายกับการแพทย์ในปัจจุบัน และการรักษาจิตใจจะใช้ธรรมโอสถ ในพระไตรปิฎกกล่าวถึงการรักษาทั้งด้านร่างกายและจิตใจ โดยใช้การแพทย์ที่มีประสิทธิภาพเช่น ยา น้ำมัน การผ่าตัด เป็นต้น

หัวข้อประเด็น

-ชีวกโกมารภัจจ์
-การแพทย์ในพระพุทธศาสนา
-การรักษาอาพาธ
-พระไตรปิฎก
-ร่างกายและจิตใจในการรักษา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

อาศัยคำว่า “ยังเป็นอยู่” พวกเขาจึงขนานนามทารกนั้นว่า “ชีวก” และเพราะเหตุที่ชีวกนั้นเจ้า ชายรับสั่งให้เลี้ยงไว้เขาจึงได้ตั้งนามสกุลว่า “โกมารภัจจ์” ต่อมาไม่นานชีวกโกมารภัจจ์ก็รู้เดียงสา และได้ ทูลถามเจ้าชายอภัยว่า ใครเป็นมารดาของเกล้ากระหม่อม ใครเป็นบิดาของเกล้า กระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ เจ้าชายรับสั่งว่า พ่อชีวก ตัวเราก็ไม่รู้จักมารดาของเจ้า แต่ว่าเราเป็นบิดาของเจ้า เพราะเราได้ให้เลี้ยงเจ้าไว้ ชีวกโกมารภัจจ์จึงคิดว่า ราชสกุลเหล่านี้ คนที่ไม่มีศิลปะจะเข้าพึ่ง พระบารมี ทำไม่ได้ง่าย ถ้ากระไร เราควรเรียนวิชาแพทย์ไว้ ในสมัยนั้น นายแพทย์ทิศาปาโมกข์ตั้งสำนักอยู่ ณ เมืองตักกสิลา ชีวกโกมารภัจจ์ จึง ได้ทูลลาเจ้าชายอภัยเดินทางไปเรียนวิชาแพทย์ ณ เมืองตักกสิลา ชีวกโกมารภัจจ์ เรียนวิชาได้มาก เรียนได้เร็ว เข้าใจดี วิชาที่เรียนได้แล้วก็ไม่ลืม เมื่อเวลาผ่านไป 7 ปี ชีวกโกมารภัจจ์ จึงเรียน ถามอาจารย์ทิศาปาโมกข์ว่า กระผมเรียนวิชาแพทย์สำเร็จตามหลักสูตรแล้วหรือยัง อาจารย์ตอบว่า พ่อชีวก ถ้าเช่นนั้นเธอจงถือเสียมเที่ยวไปรอบเมืองตักกสิลา ระยะทาง 1 โยชน์ ตรวจดูสิ่งใดไม่ใช่ตัวยา จงขุดสิ่งนั้นมา ชีวกโกมารภัจจ์จึงถือเสียมเดินไปรอบเมือง ตักกสิลาระยะทาง 1 โยชน์ ไม่เห็นสิ่งใดที่ไม่เป็นตัวยาสักอย่างหนึ่ง จึงเดินทางกลับมารายงาน ท่านอาจารย์ อาจารย์ทิศาปาโมกข์จึงบอกว่า พอชีวก เธอศึกษาสำเร็จแล้ว หลังจากนั้นชีวกโก มารภัจจ์จึงเดินทางไปยังเมืองราชคฤห์ ช่วยรักษาคนเจ็บป่วยหนักๆ ให้หายได้อย่างอัศจรรย์ จนได้รับแต่งตั้งให้เป็นแพทย์หลวงแห่งกรุงราชคฤห์และเป็นแพทย์ประจำพระองค์ของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและคณะสงฆ์ สำหรับวิธีการรักษาของท่านจะได้กล่าวในลำดับต่อไป 11.3.5 การรักษาอาพาธในพระไตรปิฎก จากที่กล่าวแล้วว่ามนุษย์และสัตว์ทั้งหลายประกอบขึ้นจากสองส่วนที่สัมพันธ์กัน คือ ร่างกาย และ จิตใจ การรักษาอาพาธในพระพุทธศาสนาที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกจึงรักษา ทั้งสองส่วนนี้ไปพร้อม ๆ กัน ในส่วนของร่างกายก็มีวิธีการรักษาคล้าย ๆ กับการแพทย์ยุคปัจจุบัน ส่วนทางด้านจิตใจนั้นจะบำบัดรักษาด้วยธรรมโอสถ 1) การรักษาทางด้านร่างกาย การรักษาอาพาธทางด้านร่างกายในสมัยพุทธกาลนั้น มีวิธีการคล้ายๆ กับการแพทย์ ยุคปัจจุบัน ซึ่งเท่าที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกมีดังนี้ คือ ให้กินยา ให้ดื่มยา ทายา นัตยา การ รม การสูดควันที่เป็นยา การกรอก การผ่าตัด และการขับพิษ เป็นต้น ซึ่งนักศึกษาจะได้เรียนรู้ 332 DOU สรรพ ศ า ส ต ร์ ในพระไตรปิฎก
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More