ข้อความต้นฉบับในหน้า
(สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส)
พระราชจริยารัฏฐาภิบาลโนบายนั้น ปันเป็น ๒ แผนก คือ ฝ่ายพุทธจักรและราชอาณาจักร
แม้เพียงข้อเดียวนี้ ก็ยากที่จะพรรณนาให้จบลงในกถามรรคกัณฑ์นี้ จะรับพระราชทานบรรยายแต่
การที่ได้เป็นไปขวบหลัง ตั้งแต่กันยายน ร.ศ. ๑๑๘ ถึง สิงหาคม ร.ศ. ๑๑๙ ให้ออกไปจักการคณะ
สงฆ์ในมณฑลหัวเมือง นับเนื่องในการจักธรรมิการักขาเป็นหน้าที่ของพระมหากษัตริย์เจ้ามาแต่
ครั้งโบราณกาลเป็นอปรหานิยปฏิบัติ อนุวัตรตามพระบรมพุทโธวาท (๑) ตรัสสอนเหล่ากษัตริย์
ลิจฉวี ให้เอาพระหฤทัยเอื้อเฟื้อในพระอรหันตขีณาสพทักขิเณยยบุคคลว่า ยาวกวญจ ลิจฉวี วช
ชีน อรหนฺเตสุ ธมฺมการกขาวรณคุตฺต สุวินิตา ภวิสฺสติ ดูก่อนเหล่าลิงฉวี พวกวัชชียังจักจัด
ความรักษาระวังระไวป้องกันอันชอบธรรมในพระอรหันต์ทั้งหลายดีแล้วเพียงใด ด้วยคิดจะให้พระ
อรหันต์ผู้ยังไม่มาพากันมาสู่รัชสีมา และให้พระอรหันต์ผู้มาแล้วอยู่ผาสุกสบาย วุฑฒิเยว ลิจฉวี
วชชีน ปาฏิกงฺขา โน ปริหาน พวกวัชชียังจะหวังความเจริญได้ ไม่มีความเสื่อมทรามอยู่เพียง
นั้นแท้จริง การพระราชทานธรรมิการักขาแก่ผู้ประพฤติพรตทั่วไป แม้แก่ผู้ที่ไม่ทรงนับถือนี้ เป็น
ข้อนี้มีพระราชบรรหารของพระเจ้าอชาตศัตรูบรม
ประเพณีของพระมหากษัตริย์เจ้าในอดีตกาล
บพิตร พระเจ้ามคธรัฐ ตรัสเล่าถวายสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นเครื่องสาธก แท้จริงเมื่อพระ
เจ้าอชาติสัตรุบรมบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปสู่สำนักดิตถกรเจ้าลัทธิ 5 คน มีปูรณกัสสปเป็น
หัวหน้า ตรัสถามหาผลที่สมณะจะพึงได้ในการประพฤติพรตเพศผนวชว่า จะมีบางอย่างของคฤหัสถ์
ผู้พึ่งศิลปะศาสตร์ของตนเลี้ยงชีพ หรือไฉน? ครู 5 คน ทูลถวายวิสัชนาไขว้เขวไปตามลัทธิของตน
ๆ
หาต้องตามพระราชปุจฉาไม่ พระเจ้าอชาตศัตรูบรมบพิตรไม่พอพระราชหฤทัย แต่ทรง
พระราชดำริว่า กถ หิ นาม มาทิโส สมณ์ วา พราหมณ์ วา วิชิเต วสันต์ อุปสาเทพพ
มญฺเญยฺย ไฉนเจ้า แผ่นดินเช่นเราจะพึงสำคัญเห็นสมณะก็ดี พราหมณ์ก็ดี ผู้อยู่ในอาณาเขตว่า
เป็นผู้ที่ตนอาจจะรุกราน ครั้งทรงพระราชดำริฉะนี้แล้ว ก็ไม่ตรัสอนุโมทนาและคัดค้านเสด็จ
กลับมาเสีย ข้อนี้สาธกว่า พระมหากษัตริย์เจ้าแต่ปางก่อน ได้พระราชทานธรรมการักขาแก่ผู้
ประพฤติพรตทั่วไป แม้แก่ผู้ที่ไม่ทรงนับถือ ฉะนี้ อีกประการหนึ่ง ได้ทรงพระราชศรัทธาเริ่มการ
สถาปนาวัดเบญจมบพิตร และบูรณะวัดปริยายก ทรงพระราชอุทิศแก่จาตุทิศสงฆ์ ผู้จะมาอยู่อาศัย
ประกอบกิจพระศาสนา การสร้างพระอารามวิหารอุทิศแก่
(๑) องฺ. สตฺตก. ๒๓/๑๖.