ข้อความต้นฉบับในหน้า
สุภมนุญอดุลยผลอาทิทานมัย สีลมัย ภาวนามัยบุญกิริยา เป็นไปในพระพุทธาภิรัตนตรัยอดิศัย
อนุตตรบุญเขตประกอบสมณเพศบริษัทเป็นต้น ทรงแผ่พระราชกัลยาณจิตถวายส่วนพระราชกุศล
อุทิศส่วนพระราชกุศล พระราชทานส่วนพระราชกุศลในอดีตพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุก
พระองค์ ในเทวนิกรทุกสถาน ในทุกพระองค์ทุกท่านผู้อภิบาลป้องกันรักษาพระมหาราชาธิราช
เจ้าและสถาบันทั้งปวง ทรงแผ่พระราชกุศลด้วยพระมหากรุณาธิคุณใหญ่หลวง เพื่อความเจริญ
ความเกษมสุขสวัสดี ไปในพระราชวงศ์ มุขมหาอมาตย์มนตรีสภาเสวกามาตย์สมณชีพราหมณ์
อาณาประชาราษฎร์ทั่งทั้งนั้น พระราชกุศลย่อมประมวลกันเป็นมงคลวิเสส เหตุให้ทรงได้รับ
ไมตรีหิโตปเทศกัลยาณจิตน้อมถวายพระพรชัย จากสรรพเทพน้อยใหญ่และมนุษย์ให้ทรงบริสุทธิ์
สถาพรในพระสิริราชัยมไหศวรรยาธิปัตย์ เจริญพระชนมายุพระราชสิริสวัสดิ์เกษมจากสรรพโรค
สรรพอุปัททวันตราย
อนึ่ง พระราชกุศลทั้งหลาย ที่ทรงบำเพ็ญแล้วด้วยดี ย่อมเป็นบุญราศี บุญนิธิสุขบาย
มงคลวิเสสปโยคสมบัติ วิวัฒน์ให้สัมฤทธิ์อิฏฐ์กันตมนาปผล คือ อายุ วรรณะ สุข ยศ สวรรค์
สมด้วยนิคมคาถา ประพันธ์แห่งพระสูตรพุทธภาษิต ตรัสประทานโอวาทแก่อนาถบิณฑิกคฤหบดี
ว่า
อาย วัณณ์ ยส์ กิตติ
รติโย ปตฺถายาเนน
สค์ อุจจากุลีนต์
อุฬารา อปราปรา
។
เป็นต้น มีความว่า เมื่อนรชนปรารถนา อายุ วรรณะ ยศ เกียรติ สรรค์ ความเกิด
ในตระกูลสูง และความยินดีเกษมสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป พึงบำเพ็ญความไม่ประมาทให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปใน
สันดารเถิด สามารถเป็นบ่อเกิดแห่งกุศลและคุณที่ประสงค์ บัณฑิตทั้งหลายย่อมสรรเสริญความ
ไม่ประมาทในบุญกิริยา การทำบุญทั้งหลายอันเป็นไปในกายวาจาจิตและกุศลสุจริต ซึ่งเป็นไป
ณ ภูมิ ๔ คือ กามาวจร รูปาวจร อรูปาวจร โลกอุดรทุกประการ บัณฑิตชนผู้ไม่ประมาทแล้ว
ย่อมยึดประโยชน์ทั้งสองไว้ได้ คือประโยชน์ในทิฏฐธรรมภพนี้และประโยชน์เป็นไปในสัมปรายภพ
หน้า เพราะอาศัยความบรรลุประโยชน์ที่ประสงค์ทั้งภพนี้และภพหน้า ท่านจึงสรรเสริญผู้ทรง
ปัญญาว่า เป็นบัณฑิต ดำเนินไปในประโยชน์กิจด้วยปัญญา ความไม่ประมาทเป็นเหตุให้บัณฑิต
ชาติยึดประโยชน์ทั้งสองไว้ด้วย ประการฉะนี้
สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก
០៨៨