ข้อความต้นฉบับในหน้า
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถร)
ต่างใช้อำนาจของตนเข้าต่อสู้
๓๖๖
เพื่อยังความเป็นอยู่แลความปรารถนของตนให้สำเร็จแม้โลกจำเร็ญ
ขึ้น รู้จักใช้วิธีผ่อนผันหลายประการ เป็นต้นว่า ยอมให้ประชาชนหมู่อื่นตัดสินถึงอย่างนั้น ก็ยัง
ถนัดใช้อำนาจของตนชี้ขาดอยู่นั่นเอง มีมหาสงครางในครั้งก่อน แลในบัดนี้เป็นอุทาหรณ์ เมื่อ
เป็นเช่นนี้ ชนนิกรต่างฝ่ายต้องแบ่งกันออกเป็นพวกหนึ่ง มีหน้าที่สำหรับต่อสู้ปรปักษ์ ครั้งโบราณ
เรียกว่ากษัตริย์ มีพระราชาเป็นประมุขด้วยเหตุนี้ ราชกุมารผู้สืบสายจากพระราชาผู้มีหน้าที่
ในทางนี้ตามกัน จึงได้นามวิสามัญว่ากษัตริย์ด้วยบริวารของพวกกษัตริย์ย่อมเป็นโยธี คือพลรบ
ตามเจ้าของตน การจัดการป้องกันศัตรูภายนอก เป็นรัฏฐาภิบาลโนบายประการหนึ่ง ซึ่งจะเว้น
เสียมิได้ อันการสงครามย่อมเกิดขึ้นโดยฉุกเฉิน แลจะเอาชัยเพราะมีพลแลศัสตรวุธภัณฑ์มากกว่า
อย่างเดียวหาได้ไม่
ต้องอาศัยสติปัญญากล้าหาญชำนาญว่องไวพรักพร้อมอยู่ในบังคับบัญชา เป็น
ต้นด้วย จึงอาจช่วยจะเอาชัยได้ การสงครามจึงต้องตระเตียมได้ว้พร้อม แม้ในเวลาว่างศึก ไม่เช่น
นั้นไม่ทันกาล ย่อมเสียเปรียบศัตรู มีเรื่องทีฆาวุชาดกรับสมอ้างว่า โกศลรัฐเป็นแค้วนน้อยมีพล
ศัสตราวุธภัณฑ์เสียบ่งพาหนะน้อยกว่ากาลีรัฐอันอยู่ติดต่อกัน ทั้งมัวประมาทไม่ได้ตระเตรียมด้วย
เมื่อศึกกาสีมาติด ไม่อาจต่อสู้
ย่อมเสียแก่กาลี สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า
ตระเตรียมพร้อมของเมืองที่ไม่ประมาทขึ้นเป็นอุปมา ประทานพรบรมพุทโธวาทไว้ว่า
ทรงยกความ
นคร ยถา ปจจนต์
คุตต์ สนฺตรพาหิร์
เอว์ โคเปถ อตฺตานํ
ขณาตีตา หิ โสจนติ
ขโณ มา โว อุปจฺจคา
นิรยมุห์ สมปุปิตา ฯ
แปลว่า เมืองอันตั้งอยู่ตามชายแดนซึ่งเป็นเมืองหน้าศึก เรียกว่าปัจจันตะ เขาระวังทั้งภายใน
ภายนอกฉันใด ท่านทั้งหลาย จงระวังตัวฉันนั้น ขณะคราวสมัยอย่าได้ล่วงเลย ท่านทั้งหลายไป
เสีย เพราะว่า พวกชนผู้มีขณะคราวสมัยล่วงเลยไปเสียแล้ว ย่อมจะเศร้าโศกเต็มเพียบอยู่ในที่
ไม่มีความเจริญ
ประเทศไทย นี้ตั้งอยู่ยั่งยืนสืบมาได้ด้วยอาการที่พลเมืองเป็นนักรบ เวลามีสงคราม่อม
ระดมกันรลบ เวลาว่างต่างแนกกันทำกิจต่างแผนก จนถึงได้ปันลงมาว่า เป็นฝ่ายทหารฝ่ายพล
เรือน ด้วยเดชาเป็นนักรบ พระราชอาณาเขตสงบมาช้านาน จนฝ่ายพลเรือนไม่คุ้นเคยการรบ
ฝ่ายทหารก็ไม่สันทัด ครั้งรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบำรุงการ
ทหารบกเจริญขึ้น มาในรัชกาลปัจจุบัน สมเด็จบรมบพิตรพระ-