ข้อความต้นฉบับในหน้า
สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก
๑๓๙
ธรรมนั้นอย่างถูกต้องถ่องแท้ เป็นความรู้จริงปรากฏขึ้นประจักษ์ชัดแจ้ง คือเกิดเป็นปัญญาที่
แท้จริงของตนเอง มิใช่เป็นการจำปัญญาของผู้อื่นไว้ คือมิใช่จำพระปัญญาของสมเด็จพระบรม
ศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าขึ้นใจไว้ และนำไปพูดไปเขียนไปอ้างเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ปัญญาต้อง
อาศัยการเรียนรู้และการปฏิบัติประกอบกัน การเรียนรู้หรือการฟังจึงมีคุณมาก
ได้มีพระพุทธภาษิตแสดงไว้ว่า
พหุสฺสสติ อุปาเสยย
ต มูล พรหมจริยสุส
สุต จ น วินาสเย
ตสุมา ธมฺมธโร สิยา ។
แปลความว่า พึงนั่งใกล้ผู้เป็นพหูสูต และไม่พึงทำสุตะให้เสื่อม สุตะนั้นเป็นรากแห่ง
พรหมจรรย์ เพราะฉะนั้น ควรเป็นผู้ทรงธรรมนี้
สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้าทรงศึกษาธรรม ทั้งด้วยทรงสดับและทรงอ่าน ทรง
ใส่พระราชหฤทัยไว้ได้ ทรงทบทวนเพ่งพินิจพิจารณา เป็นเหตุให้เกิดพระปัญญานำไปสู่ความเจริญ
ทั้งทางโลกและทางธรรม ทั้งส่วนพระองค์และทั้งแก่อาณาประชาราษฎร์ประเทศชาติทั้งนั้น
กัลยาณมิตตตาธรรม
ธรรมคือความเป็นผู้มีเพื่อนดีงาม กัลยาณมิตรมิได้หมายถึง
เพียงผู้ที่เรียกกันว่าเพื่อน หรือมิตร หรือสหาย คำว่า เพื่อนนั้นมีทั้งที่เป็นเพื่อนดี เพื่อนไม่ดี เพื่อน
สนิท เพื่อนไม่สนิท เพื่อนแท้ เพื่อนเทียม กัลยาณมีความหมายว่า ดี งาม เป็นมงคล เมื่อนำไป
ประกอบเข้ากับคำใดคำหนึ่ง ก็ทำให้คำนั้นมีความหมายเป็นพิเศษขึ้น ด้วยความดีมีมงคล เช่น
กัลยาณปุถุชน หมายถึงสามัญชนผู้ยังมิใช่อริยบุคคลที่มีใจมุ่งดีปรารถนาดีเป็นพิเศษเป็นมงคล
กัลยาณจิตหมายถึงจิตที่มีความมุ่งที่ปรารถนาดีเป็นพิเศษ เป็นมงคลแผ่ไป
กัลยาณมิตรจึง
หมายถึงผู้ที่มีใจเป็นเพื่อนที่มุ่งดี ปรารถนาดีเป็นพิเศษเป็นมงคลแผ่ไป กัลยาณมิตรจึงหมายถึงผู้ที่
หวังดีให้ความช่วยเหลือ ว่ากล่าวตักเตือนแนะนำ ไม่ปล่อยให้คิดผิดพูดผิดทำผิด ทั้ง ๆ ที่รู้ ไม่
ปล่อยให้มีภัยมีความเสื่อมเสียเกิดขึ้น แม้ป้องกันได้ แม้มีคุณสมบัติดังรับพระราชทานถวายพระ
พรแล้ว จะเป็นเพื่อนหรือไม่ใช่เพื่อนในความหมายที่ใช้กันทั่วไป ก็เป็นกัลยาณมิตรได้ คือแม้จะ
เป็นผู้ที่ไม่รู้จักคุ้นเคยแม้ที่อยู่ห่างไกล ไม่เคยพบเห็น แต่เมื่อมีใจมุ่งที่ปรารถนาดีจริงใจต่อผู้ใด
คิดพูดทำทุกอย่างเพื่อป้องกันช่วยเหลือผู้นั้น เต็มสติปัญญาความสามารถ ให้พ้นจากความเสื่อม
เสีย ทุกประการ ไม่ว่ามากน้อยหนักเบา ก็นับได้ว่า เป็นกัลยาณมิตร