ข้อความต้นฉบับในหน้า
๑๑๘
สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก
พระราชทานถวายภัตตาหารบิณฑบาต ขัชชะโภชชาหาร และไทยธรรมสมณบริขาร ในภิกษุสงฆ์
สรรพสาธารณพลี
แล้วทรงพระราชทานอุทิศส่วนพระราชกุศลแก่เทวดามนุษย์เป็นเทวดาพลี
ธรรมบรรณาการ เพื่อให้อนุโมทนาสัมฤทธิ์วิบุลสุขสมบัติ และจะได้ตั้งไมตรีหิโตปเทศกัลยาณจิต
ประสิทธิชัยมงคลสิริสวัสดิ์พระชนมสุขศุภวิบุลมนุญผล ถวายสมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า
ให้ทรงพระสถาพรนิรมลในพระสิริราชมไหศวรรยสมบัติ โดยอุดมศิริสวัสดิ์เกษมนิราศสรรพพิบัติ
อุปัทวันตรายทรงบำเพ็ญพระราชธรรมจริยารัฏฐาภิบาลโนบายและพระราชกุศลบุญนิธิ ให้อุฬารา
ดิเรกไพศาล เพิ่มพระบรมสมโพธิสมภารสัปปุริสปฏิบัติ ทรงเป็นองค์บรมนาถบพิตรแห่งประชา
นิกรทุกหมู่เหล่าเทพทั้งมนุษย์อารักษ์ทุกสถาน ทรงเบิกบานด้วยพระราชกัลยาณเกียรติคุณอดุลย
บริสุทธิ์สมดังพระพุทธภาษิตตรัสไว้ในปัญจกังคุตตนิกายว่า สปปุริโส ภิกฺขเว ชายมาโน เป็น
อาทิ แปลความว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัปบุรุษเกิดในตระกูลเป็นไปเพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล
เพื่อสุขแก่ชนเป็นอันมาก คือแก่มารดาบิดา แก่บุตรภริยา แก่คนรับใช้คนทำงานทั่วไป แก่มิตร
อำมาตย์ แก่สมณพราหมณ์ เหมือนอย่างมหาเมฆฝนหลวงยังข้าวกล้าให้ถึงพร้อมงอกงาม เป็นไป
เพื่อประโยชน์เกื้อกูลสุขแก่ตนเป็นอันมาก”
หิโต พหุนน์ ปฏิปชช โภเค พระพุทธสุภาษิตที่อัญเชิญถวายไว้เบื้องต้น แปลความ
ทั้งหมดดังนี้ “บุคคลใดได้ปฏิบัติโภคสมบัติ ดำรงฆราวาสวิสัย เกื้อกูลให้เป็นประโยชน์แก่ชนเป็น
อันมากเทวดาย่อมรักษาบุคคลนั้น ผู้อันธรรมคุ้มครองรักษาเกียรติคุณย่อมไม่ละบุคคลนั้น ผู้เป็น
พหูสูต มีอรรถและธรรมได้สดับมาประกอบด้วยศีลาจารวัตรสถิตในธรรมใครควรจะนินทาบุคคล
นั้น ผู้ตั้งอยู่ในศีลธรรม ถึงพร้อมด้วยศีล มีปกติกล่าววาจาสัตย์ มีหิริอยู่ในใจบริสุทธิ์ดุจแท่งทอง
ชมพูนุทอย่าว่าแต่มนุษย์เลย แม้เทวดาและพรหมก็ย่อมสรรเสริญบุคคลนั้น” ด้วยประการฉะนี้
ลำดับนี้ จักรับพระราชทานสรรคุณสมบัติที่ตั้งแห่งสวัสดิมงคลอันพิเศษยิ่งซึ่งได้ชื่อว่า
พระมงคลวิเสส มารับพระราชทานถวายวิสัชนา ประดับพระปัญญาบารมีที่แม้ได้ทรงสดับแล้ว
ทรงพระปัจจเวกณ์ด้วยพระกำลังพระปรีชาญาณอันสูงส่ง จะทรง