ข้อความต้นฉบับในหน้า
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถร)
๓๐๗
เมื่อทรงบำเพ็ญทานด้วยตัวเองก่อนแล้ว ย่อมชักชวนชนอื่นให้บำเพ็ญด้วย ดังสรรเสริญไว้ในเรื่อง
ต่าง ๆ โดยอนุรูปแก่เหตุว่า เอโก อตฺตนา จ เทติ ปรญฺจ สมาทเปติ โส นิพฺพตฺต
นิพฺพตฺตฏฺฐาเน ปริคสมุปทญฺจ ลภติ ปริวารสมุปทญฺจ ความว่า ทายกผู้หนึ่ง ให้ทาน
ด้วยตนเองด้วย ย่อมชักชวนผู้อื่นด้วย ทายกผู้นั้นจะได้โภคสมบัติ ทั้งบริวารสมบัติ ในที่แห่งตน
เกิดแล้ว ๆ ดังนี้ มหาชนได้พึ่งพระบารมี ชักนำแล้ว ย่อมเจริญด้วยกุศลจิตสมดังพระพุทธ
ภาษิตว่า
ยถา หิ ปพฺพโต เสโล
อรญฺญสม พรหาวเน
เป็นอาทิ ความว่า ภูเขาศิลามีอยู่ในป่าใหญ่ หมู่ไม้ได้อาศัยในภูเขานั้น เจริญงอกงาม
อยู่ในป่าฉันใด
ตเถว สีลสมฺปนฺนํ
สุทธ์ กุลปุตต์ อิธ
บุตรภรรยาญาติพวกพ้องมิตรสหายแลคนผู้ฟัง เลี้ยงชีพ ย่อมอาศัยกุลบุตรผู้มีศรัทธา ถึงพร้อม
ด้วยศีล เจริญด้วยคุณสมบัติแลวิบากสมบัติฉันนั้น
ตุ้ยสฺส สีลวโต สีล
สีล จาก สุจริตานิ จ ។
ชนเหล่านั้น ที่เป็นผู้มีปัญญา ได้เห็นศีล บริจาค แลสุจริตของกุลบุตรผู้มีศีลเป็นตัวอย่างก็ย่อมจะ
นิยมกระทำตาม อิธ ธมม์ จริตวาน ครั้นประพฤติธรรมสุจริตอันนำไปสู่สวรรค์สุคติดังนั้น
แล้ว ผู้ที่ยังใคร่กามคุณารมณ์ ย่อมจะเพลิดเพลินบันเทิงอยู่ในเทวโลก ดังนี้
พระราชจรรยาสัมมาปฏิบัตินี้ เป็นไปเพื่อทำนุบำรุงอิสรภาพ แลสัมบูรณภาพแห่งรัฐ
มณฑล ซึ่งเป็นผลเกิดแต่ถาวรภาพแห่งพุทธศาสนา เป็นเหตุพระราชกุศลบุญเขตนี้ได้ปัจจัยเป็น
ประโยคสมบัติ จักสำเร็จสิริสวัสดิมงคลอันล้ำเลิศแด่พระองค์แลทวยราษฎร์ตามคราวโอกาสนั้น
ๆ ซึ่งจักอำนวนเหตุด้วยทรงเป็นปฏิรูปการีในธรรม นำให้เกิดผล คือ พหุปปิยตา ความเป็นที่
รักของคนเป็นอันมากเป็นรัฏฐาภิบาลโนบาย โดยบรรยายดังรับพระราชทานถวายวิสัชชนามา
ด้วยประการฉะนี้